10 Recommend Spirits June 2025 Week 4
10 สินค้าแนะนำประจำสัปดาห์จาก LIQ9.asia
เริ่มจากความประณีตของ Hibiki Japanese Harmony เบลนด์วิสกี้จากญี่ปุ่นที่ละเมียดละไมดุจดนตรี ไปจนถึงความเข้มข้นของ Wild Turkey Rare Breed ที่แสดงพลังแบบ American Bourbon อย่างแท้จริง
เรายังมีขวดพิเศษอย่าง Caorunn Tom Yum Gin ที่ผสานจิตวิญญาณของจินสก็อตแลนด์กับกลิ่นอายไทยแท้ ๆ และเสน่ห์ของสุราชั้นดีจากฝรั่งเศสอย่าง Calvados Père Magloire VSOP
สัปดาห์นี้ ถ้าคุณพร้อมจะเปิดประสบการณ์ใหม่ ๆ เราขอชวนให้เริ่มต้นจากลิสต์นี้
1. Suntory Hibiki Japanese Harmony
Hibiki (響) แปลว่า “เสียงสะท้อน” หรือ “กังวาน” ซึ่งเป็นชื่อที่ถูกเลือกมาอย่างตั้งใจจาก Suntory — แบรนด์วิสกี้ญี่ปุ่นผู้บุกเบิกที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 100 ปี เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองครบรอบ 90 ปีของบริษัทในปี 1989
Hibiki จึงถือกำเนิดขึ้นเพื่อเป็น “เสียงแห่งญี่ปุ่น” ที่ผสมผสานวัฒนธรรม การประณีต และศิลปะการเบลนด์วิสกี้ที่ละเอียดอ่อนระดับโลก โดยใช้วิสกี้จาก Yamazaki, Hakushu และ Chita ซึ่งล้วนแต่เป็นโรงกลั่นในเครือ Suntory เอง
Hibiki Japanese Harmony เปิดตัวในปี 2015 เป็นรุ่นที่สื่อถึง “ความกลมกล่อมของความหลากหลาย” หรือ Harmony อย่างแท้จริง เป็นตัวแทนของยุคใหม่ที่สืบทอดจิตวิญญาณของ Hibiki ในแบบที่เข้าถึงง่ายขึ้น แต่ยังเปี่ยมด้วยระดับชั้นของรสชาติแบบญี่ปุ่นแท้ ๆ
คาแรกเตอร์เด่น:
✔ เบลนด์อย่างปราณีตจากวิสกี้มากกว่า 10 ชนิด ทั้ง Single Malt และ Grain จาก Yamazaki, Hakushu และ Chita ที่มีอายุและบุคลิกหลากหลาย
✔ กลิ่นหอมของดอกไม้ขาว น้ำผึ้ง เปลือกส้ม และเชสนัท ที่มีความนุ่มนวลละเมียดตามแบบฉบับญี่ปุ่น
✔ รสสัมผัสที่กลมกล่อมและบาลานซ์ ระหว่างความหวานจากวานิลลา กับโทนไม้โอ๊กอบอุ่นและกลิ่นชาสมุนไพรจาง ๆ
✔ เหมาะทั้งดื่มเปล่า จิบเย็น หรือผสมเป็น Highball สำหรับมื้อเย็นที่ต้องการความสงบและสมดุล
2. Citadelle Original Gin
Citadelle ถือกำเนิดขึ้นที่ใจกลางแคว้น Cognac ประเทศฝรั่งเศส โดย Maison Ferrand — หนึ่งในผู้ผลิตสุราชั้นนำที่มีวิสัยทัศน์ชัดเจนในการรังสรรค์ “จินแบบฝรั่งเศสแท้ ๆ” ที่แตกต่างจากจินอังกฤษอย่างสิ้นเชิง
ชื่อ “Citadelle” ได้รับแรงบันดาลใจจากโรงกลั่นเก่าในศตวรรษที่ 18 ซึ่งตั้งอยู่ในเมือง Dunkirk ที่เคยผลิตจินเพื่อราชสำนักฝรั่งเศส Citadelle จึงเป็นเหมือน “จิตวิญญาณแห่งฝรั่งเศส” ที่ถ่ายทอดผ่านกรรมวิธีแบบ Artisanal และเครื่องเทศมากถึง 19 ชนิด
นับตั้งแต่เปิดตัวในปี 1996 Citadelle Original ก็กลายเป็นตัวแทนของ “French Gin Style” ที่หอมละมุน มีเสน่ห์ และสมดุลอย่างมีศิลปะ
คาแรกเตอร์เด่น:
✔ จินฝรั่งเศสที่กลั่นจากถังทองแดงแบบช้า ๆ (small copper stills) เพื่อดึงกลิ่นและเนื้อสัมผัสที่นุ่มนวล
✔ เบสจาก wheat spirit กลั่นละเอียด พร้อม infused กับสมุนไพร 19 ชนิด เช่น Juniper, Angelica, Cardamom, Cinnamon, Violet, Almond, Nutmeg และ Citrus peel
✔ กลิ่นหอมซับซ้อนและสง่างาม – โทน floral และ citrus สดใส ปิดท้ายด้วยกลิ่นเครื่องเทศเบา ๆ
✔ รสสัมผัสสะอาดและบาลานซ์ดีเยี่ยม – จิบเดี่ยวก็ได้ หรือเหมาะอย่างยิ่งสำหรับคลาสสิกค็อกเทลอย่าง Gin & Tonic หรือ French 75
3. Calvados Pere Magloire V.S.O.P.
Calvados เป็นเครื่องดื่มประจำถิ่นของนอร์มังดี ประเทศฝรั่งเศส ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวในฐานะ “บรั่นดีแอปเปิล” ที่ต้องกลั่นจากน้ำหมักแอปเปิลแท้ 100% เท่านั้น
Père Magloire คือหนึ่งในแบรนด์ที่เก่าแก่และมีชื่อเสียงที่สุดในโลกของ Calvados ก่อตั้งตั้งแต่ปี 1821 โดยมีจุดกำเนิดในเมือง Pont-l’Évêque ซึ่งเป็นหัวใจของภูมิภาค Calvados
ชื่อแบรนด์มาจาก “คุณพ่อมักลัวร์” (Père Magloire) พระในตำนานผู้กลั่นแอปเปิลบรั่นดีเพื่อชาวบ้าน — เปรียบเสมือนสัญลักษณ์แห่งความอบอุ่นและคุณภาพ ที่สืบสานมาจนถึงทุกวันนี้
คาแรกเตอร์เด่น:
✔ ใช้แอปเปิลจากนอร์มังดีหลากหลายสายพันธุ์ – ทั้งแบบหวาน เปรี้ยว และขมเล็กน้อย เพื่อสร้างสมดุล
✔ กลั่นแบบช้า (Distillation Lente) ด้วยหม้อทองแดงสองครั้ง เพื่อให้ได้กลิ่นที่ซับซ้อนและเนื้อสัมผัสที่กลมกล่อม
✔ บ่มอย่างน้อย 4 ปีในถังโอ๊กฝรั่งเศส – มอบโน้ตของแอปเปิลอบ วานิลลา และคาราเมลอย่างพอดี
✔ เหมาะสำหรับจิบเดี่ยวหลังมื้ออาหาร หรือใช้ทำค็อกเทลสไตล์ฝรั่งเศส เช่น Tonic Calvados หรือ French Mojito
4. Caorunn Tom Yum Gin
Caorunn (อ่านว่า “คา-รูน”) คือจินที่ผลิตจากโรงกลั่น Balmenach หนึ่งในโรงกลั่นวิสกี้ที่เก่าแก่ของสก็อตแลนด์ ซึ่งตั้งอยู่ท่ามกลางเทือกเขา Cairngorms โดย Caorunn ขึ้นชื่อเรื่องการใช้ “botanicals” แบบดั้งเดิมผสานกับความแปลกใหม่เพื่อสร้างจินที่แตกต่างจากกระแสตลาดทั่วไป
รุ่น “Tom Yum” นี้ถือเป็นลิมิเต็ดเอดิชันที่เกิดจากความร่วมมือระหว่างนักกลั่นของ Caorunn และแรงบันดาลใจจากอาหารไทยอย่าง “ต้มยำ” — เมนูที่เป็นที่รักของคนทั่วโลก ด้วยรสชาติที่ซับซ้อนทั้งเปรี้ยว เค็ม เผ็ด หอม และสดชื่น
Caorunn Tom Yum Gin จึงเป็นเครื่องดื่มที่ถ่ายทอดความเผ็ดร้อนมีระดับ ผ่านวัตถุดิบอย่างข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด และพริกแห้ง ซึ่งมีกลิ่นหอมชัดเจนแต่ไม่จัดจ้านจนเกินไป
คาแรกเตอร์เด่น:
✔ กลิ่นหอมเผ็ดซ่า สะท้อนจิตวิญญาณต้มยำแท้ ๆ – ทั้งตะไคร้ ใบมะกรูด ข่า และพริก
✔ รังสรรค์ด้วยกระบวนการ Small Batch Distillation – ด้วย Copper Berry Chamber ที่มีเฉพาะที่โรงกลั่น Balmenach
✔ ดื่มง่ายและมีบาลานซ์ – ไม่เผ็ดโดดหรือแรงเกินไป แต่ให้กลิ่นรสแบบ citrus spicy ที่น่าจดจำ
✔ เหมาะสำหรับคนรักจินแนวฟิวชั่น – จิบเพียวก็ได้ หรือจะทำเป็น Tom Yum Gin & Tonic ก็ลงตัว
5. Tamnavulin Sherry Cask Edition Single Malt Scotch Whisky
Tamnavulin (แทม-นะ-วู-ลิน) คือโรงกลั่นจากใจกลาง Speyside ซึ่งก่อตั้งขึ้นในปี 1966 เพื่อรองรับความต้องการของวิสกี้เบลนด์ในยุคนั้น ก่อนจะหยุดดำเนินการไปช่วงหนึ่ง และกลับมาอีกครั้งอย่างน่าจับตามองในยุค 2000s โดยมุ่งมั่นรังสรรค์ซิงเกิลมอลต์คุณภาพในราคาจับต้องได้
ชื่อ Tamnavulin หมายถึง “miller’s hill” หรือ “เนินเขาของชาวโม่” สะท้อนถึงภูมิประเทศอันอุดมสมบูรณ์และสายน้ำที่บริสุทธิ์จากแม่น้ำ Livet ซึ่งมีบทบาทสำคัญต่อรสชาติของวิสกี้ในภูมิภาคนี้
รุ่น Sherry Cask Edition คือหนึ่งในผลงานที่แสดงออกถึงความหวานแบบสเปนและความนุ่มของ Speyside ได้ดีที่สุด ด้วยการบ่มในถัง American Oak แล้วจบด้วยการฟินิชในถังเชอร์รี่จากสเปนถึง 3 แบบ (Oloroso, Pedro Ximénez และ Amontillado) ทำให้ได้วิสกี้ที่เต็มไปด้วยกลิ่นผลไม้แห้ง หวานแบบพอดี และมีโครงสร้างลุ่มลึก
คาแรกเตอร์เด่น:
✔ กลิ่นหอมซับซ้อนของเชอร์รี่แห้ง ลูกเกด วานิลลา และน้ำผึ้ง – มาจากการฟินิชในถังเชอร์รี่ถึง 3 แบ
✔ รสสัมผัสกลมกล่อม นุ่มลิ้น – เหมาะกับทั้งนักดื่มเริ่มต้นและนักดื่มสายคลาสสิกที่ชอบวิสกี้ไม่แรงจัด
✔ สไตล์ Speyside ที่เข้าถึงง่าย – โครงสร้างดี แทนนินบางเบา และไม่มีรสควัน (non-peaty)
6. Canadian Club
Canadian Club คือหนึ่งในวิสกี้แคนาดาที่เก่าแก่และมีชื่อเสียงมากที่สุดในโลก ก่อตั้งขึ้นในปี 1858 โดย Hiram Walker นักธุรกิจชาวอเมริกันที่ตัดสินใจย้ายการผลิตวิสกี้ของเขาข้ามพรมแดนมายังเมือง Windsor ประเทศแคนาดา เพื่อหลีกเลี่ยงภาษีสุราสูงลิ่วในสหรัฐฯ
ในยุค Prohibition (1920s) ที่สหรัฐอเมริกาห้ามการผลิตและจำหน่ายแอลกอฮอล์ Canadian Club กลายเป็น “ของดีใต้ดิน” ที่ถูกลักลอบนำเข้าผ่านแม่น้ำ Detroit โดยเหล่าแก๊งมาเฟีย — รวมถึง Al Capone เองก็เป็นแฟนตัวยงของวิสกี้ขวดนี้
ตลอดเวลากว่า 160 ปี Canadian Club ยังคงรักษาเอกลักษณ์ของตนไว้ได้อย่างเหนียวแน่น: เป็น Canadian Whisky ที่เบลนด์อย่างพิถีพิถัน และบ่มในถังโอ๊กขาวเป็นเวลา 6 ปีเต็มก่อนปล่อยสู่ตลาด ซึ่งมากกว่ากฎขั้นต่ำในแคนาดาที่กำหนดไว้เพียง 3 ปีเท่านั้น
คาแรกเตอร์เด่น:
✔ บ่ม 6 ปีในถังโอ๊กขาว – มอบความนุ่ม ละมุน กลมกล่อม และโน้ตของวานิลลา โอ๊ก และเครื่องเทศ
✔ รสสัมผัสคลาสสิกแบบแคนาเดียน – ดื่มง่าย ไม่หนักเกินไป เหมาะสำหรับการจิบเดี่ยวหรือผสมในค็อกเทล
✔ เหมาะสำหรับ Highball, Whisky Soda หรือ Whisky Cola – ดื่มง่ายในทุกโอกาส
7. Arran Malt Sherry Cask Finish
Isle of Arran คือเกาะขนาดเล็กทางตะวันตกของสกอตแลนด์ ซึ่งถูกขนานนามว่าเป็น “Scotland in Miniature” ด้วยภูมิประเทศที่ครบเครื่องทั้งภูเขา แม่น้ำ และสายลมทะเลเย็นสดชื่น ในปี 1995 โรงกลั่น Arran Distillery ก่อตั้งขึ้นบนเกาะแห่งนี้ ด้วยความตั้งใจจะสร้างวิสกี้ที่แสดงออกถึง terroir อย่างแท้จริง
Arran Malt Sherry Cask Finish คือซิงเกิลมอลต์ที่ผ่านการบ่มสองเฟส (Double Maturation) — เริ่มต้นด้วยการบ่มในถัง Bourbon American Oak และต่อด้วยการ "Finish" เพิ่มในถัง Oloroso Sherry จากสเปน ซึ่งมอบกลิ่นหอมอบอวลและรสสัมผัสเข้มข้นแบบคลาสสิก เหมาะสำหรับคนที่ชื่นชอบวิสกี้มีโทนผลไม้แห้งและกลิ่นโอ๊กหวานซับซ้อน
คาแรกเตอร์เด่น:
✔ Finish ด้วยถัง Oloroso Sherry – มอบกลิ่นของผลไม้แห้ง ลูกเกด พรุน วานิลลา และโอ๊กหวานอย่างมีระดับ
✔ รสสัมผัสนุ่มลึก เข้มข้น แต่บาลานซ์ – ด้วยกลิ่นหอมชั้นดีและเนื้อสัมผัสที่กลมกล่อม
✔ ไม่มีการฟอกสี และไม่กรองเย็น (Non-chill filtered) – ถ่ายทอดรสชาติแบบ Full-bodied อย่างแท้จริง
✔ ดีกรี 55.8% ABV – เป็น strength ธรรมชาติ (Cask Strength) สำหรับนักดื่มที่ชื่นชอบพลังเต็ม
8. Wild Turkey Rare Breed
Wild Turkey คือชื่อที่ฝังแน่นในวัฒนธรรมเบอร์เบินอเมริกันมาอย่างยาวนาน ก่อตั้งขึ้นในช่วงปี 1940 โดย Austin Nichols บนเนินเขาแห่งรัฐ Kentucky — ดินแดนต้นกำเนิดของ American Bourbon อย่างแท้จริง ชื่อนี้ได้แรงบันดาลใจจากการล่าสัตว์ป่าของผู้ก่อตั้ง ที่นำเบอร์เบินของเขาไปดื่มกับเพื่อนนักล่าที่ชื่นชอบ “ไก่งวงป่า (Wild Turkey)” จึงกลายเป็นชื่อแบรนด์ในที่สุด
Rare Breed คือตัวแทนแห่งความจริงใจของ Wild Turkey — เบอร์เบินที่ไม่ผสมน้ำ ไม่กรองเย็น ไม่ลดดีกรี เป็น "Barrel Proof Bourbon" ที่บรรจุจากถังโดยตรงเพื่อรักษาทุกอณูของรสชาติไว้เต็มพิกัด มอบประสบการณ์ของเบอร์เบินแบบดั้งเดิมที่ชัดเจนและมีพลัง
คาแรกเตอร์เด่น:
✔ Barrel Proof – 58.4% ABV – ไม่มีการเจือจางหลังบ่ม รสชาติเต็มพิกัดเข้มข้นอย่างแท้จริง
✔ กลั่นและบ่มโดย Master Distiller ชื่อดัง Jimmy Russell – บุคคลที่อยู่เบื้องหลัง Wild Turkey มากว่า 60 ปี
✔ โน้ตของน้ำผึ้ง โอ๊ก วานิลลา และอบเชย – พร้อมกลิ่นไหม้นุ่มจากคาราเมลและผลไม้สุก
✔ สัมผัสแน่นแต่บาลานซ์ดีเยี่ยม – ความเผ็ดร้อนที่อบอุ่น กลมกล่อมแบบเบอร์เบินแท้ ๆ
9. Rock Rose Navy Strength Edition Gin
Rock Rose คือจินคราฟต์ระดับพรีเมียมจาก Dunnet Bay Distillers — โรงกลั่นขนาดเล็กบนชายฝั่งตอนเหนือสุดของ Scotland โดยเน้นวัตถุดิบพื้นถิ่นที่เติบโตท่ามกลางอากาศหนาวจัดและแสงแดดอันสั้นของภูมิภาค Caithness
ชื่อ “Rock Rose” ได้แรงบันดาลใจจากพืชพื้นเมืองชนิดหนึ่งที่เติบโตบนผาหินในเขตนี้ มีชื่อว่า “Rhodiola rosea” ซึ่งถือเป็นสมุนไพรเก่าแก่ที่ชาวไวกิ้งเคยใช้เพื่อเพิ่มความแข็งแรงและฟื้นฟูพลัง
เวอร์ชัน Navy Strength คือการอัปเกรดพลังให้ถึงระดับ 57% ABV — ดั้งเดิมของเหล่านาวิกโยธินอังกฤษ ที่ใช้จินแบบไม่เจือจาง เพื่อความเข้มข้นและเก็บรักษาระยะยาวในเรือหลวง
คาแรกเตอร์เด่น:
✔ Alcohol 57% ABV – สไตล์ Navy Strength แรงถึงใจ เข้มข้นโดยไม่เสียบาลานซ์
✔ กลิ่นหอมซับซ้อนของจูนิเปอร์ ส้มเปลือกบาง และรากสมุนไพร – เพิ่มด้วยโน้ตของ cardamom, angelica root และพืชพรรณจากชายฝั่งสก็อต
✔ กลั่นด้วยหม้อทองแดงแบบช้า (slow distillation) – เพื่อรักษาน้ำมันหอมระเหยจากสมุนไพรให้คงอยู่
✔ โทนรสสดชื่นแบบ Citrus-forward – ดื่มกับโซดาหรือโทนิกแล้วซ่า สดใส มีพลัง
10. Mount Gay Eclipse
Mount Gay คือตำนานแห่งวงการรัมระดับโลก — เป็นโรงกลั่นที่เก่าแก่ที่สุดในโลก ก่อตั้งตั้งแต่ปี 1703 ณ เกาะบาร์เบโดส ประเทศในแถบทะเลแคริบเบียนที่เป็นหัวใจของอุตสาหกรรมรัมมาตั้งแต่ยุคอาณานิคม
รุ่น “Eclipse” เปิดตัวครั้งแรกในปี 1910 โดยตั้งชื่อตามปรากฏการณ์สุริยุปราคา (Solar Eclipse) และการปรากฏตัวของดาวหางเฮลีย์ในปีเดียวกัน ซึ่งถือเป็นการสื่อถึงความ “เปลี่ยนแปลง” และ “เอกลักษณ์” ของยุคใหม่แห่งรัม
Mount Gay Eclipse จึงเป็นมากกว่ารัมทั่วไป — มันคือ “สัญลักษณ์ของความสมดุลระหว่างประเพณีและนวัตกรรม” ที่คนรักรัมทั่วโลกต่างให้การยอมรับ
คาแรกเตอร์เด่น:
✔ กลั่นจากอ้อยและกากน้ำตาลคุณภาพสูง – ด้วยการกลั่นแบบ column & pot still เพื่อบาลานซ์กลิ่นและรส
✔ บ่มในถัง American oak barrel – ให้กลิ่นวานิลลา คาราเมล และไม้โอ๊กอ่อน ๆ แบบคลาสสิก
✔ กลิ่นหอมของกล้วยสุก แอปริคอต และน้ำผึ้ง – ผสานความสดใสจาก citrus และเครื่งเทศอบอุ่น
✔ ดื่มง่ายทั้งแบบ On the Rocks หรือเป็นเบสของค็อกเทล – โดยเฉพาะคลาสสิกอย่าง Rum Punch หรือ Daiquiri