10 สินค้าแนะนำประจำสัปดาห์จาก LIQ9.asia

เมื่อรสนิยมไม่ได้มีเพียงแค่ความชอบ แต่เป็นเรื่องของการค้นพบประสบการณ์ใหม่ ๆ เราขอพาคุณไปพบกับ 10 สินค้าแนะนำประจำสัปดาห์ ที่คัดสรรจากความนิยมของลูกค้า LIQ9.asia โดยรวมทั้ง ซิงเกิลมอลต์ไทยระดับพรีเมียม, เบอร์เบินชื่อดัง, สาเกจุนไมไดกินโจชั้นเลิศ ไปจนถึง เหล้าสุดฮิปอย่าง 818 Tequila

1. 818 Tequila Eight Reserve

818 Tequila คือแบรนด์เตกีล่าระดับพรีเมียมที่ก่อตั้งโดย Kendall Jenner ซึ่งแม้จะมาจากโลกของแฟชั่นและความบันเทิง แต่เธอกลับหลงใหลในศิลปะการทำเตกีล่าอย่างจริงจัง จึงร่วมมือกับผู้ผลิตในรัฐ Jalisco ประเทศเม็กซิโก เพื่อสร้างแบรนด์ที่ให้ความเคารพต่อวัฒนธรรมท้องถิ่นและคุณภาพอย่างแท้จริง

“Eight Reserve” คือรุ่นเรือธงสุดพิเศษของ 818 Tequila — เป็นการเบลนด์เตกีล่าที่ ผ่านการบ่มในถังไม้โอ๊กนานถึง 8 ปี (และบางส่วนถึง 1 ปี) ซึ่งหาได้ยากยิ่งในโลกของเตกีล่า มาพร้อมดีไซน์ขวดเซรามิกทรงโค้งแฮนด์เมดที่ผลิตจำกัด ทำให้ขวดนี้กลายเป็นทั้งเครื่องดื่มและของสะสม

คาแรกเตอร์เด่น:

✔ เบลนด์เตกีล่าบ่ม 1-8 ปี: ผสมผสานรสชาติระหว่างความสดใหม่ของเตกีล่าหนุ่ม และความนุ่มลึกจากการบ่มยาวนาน

✔ กลิ่นหอมซับซ้อน: เปิดด้วยกลิ่นวานิลลา โอ๊กคาราเมล น้ำผึ้งป่า และกลิ่นดอกไม้สีขาวแบบเม็กซิกัน

✔ รสสัมผัสนุ่มลื่นและหรูหรา: ดื่มง่าย ไม่บาดคอ พร้อมโน้ตของอบเชย ถั่วหวาน และเปลือกส้มแห้งแบบยาวนาน

✔ ขวดดีไซน์ระดับงานศิลป์: ทำจากเซรามิกแฮนด์เมดสีครีม-ทอง รูปทรงโค้งที่ได้รับแรงบันดาลใจจากความกลมกล่อมของรสชาติและความหรูหราเหนือกาลเวลา

2. Bowmore 15 Years Old

Bowmore (โบว์มอร์) คือหนึ่งในโรงกลั่นที่เก่าแก่ที่สุดของเกาะ Islay และเป็นหนึ่งในตำนานของโลกวิสกี้สก็อต ด้วยการก่อตั้งตั้งแต่ปี 1779 บนริมชายฝั่งของ Loch Indaal Bowmore ได้กลายเป็นสัญลักษณ์ของ “บาลานซ์แห่งควันและความซับซ้อน” ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของภูมิภาคนี้

Bowmore 15 Years Old ถือเป็นหนึ่งในรุ่นที่ได้รับความนิยมสูงสุด ด้วยเอกลักษณ์ที่โดดเด่นจากการบ่มใน bourbon barrel และจบใน sherry cask เพื่อสร้างเลเยอร์ของรสชาติที่ลุ่มลึก หอมหวาน และควันไม้ที่อบอุ่น — เป็นการผสมผสานระหว่างความดุดันของ Islay กับความละเมียดของผลไม้แห้งได้อย่างกลมกล่อม

คาแรกเตอร์เด่น:

✔ บ่มรวมกว่า 15 ปี: เริ่มต้นจาก American oak ex-bourbon casks และจบใน Oloroso sherry casks เพิ่มความซับซ้อน

✔ กลิ่นหอมลุ่มลึก: เปิดด้วยกลิ่น ควันพีท ถ่านไม้ โกโก้เข้ม และผลไม้แห้งอย่างลูกพรุนและอินทผาลัม พร้อมโน้ตของช็อกโกแลต

✔ รสสัมผัส: เรียบหรู หวานนิด ๆ ปนเค็มอย่างละมุน มีรสของโอ๊ก เครื่องเทศ วานิลลา และเปลือกส้มเคลือบช็อกโกแลต

✔ ควันพีทแบบ "นุ่มแต่ลึก": สำหรับคนที่อยากเริ่มต้นรู้จักวิสกี้ Islay – Bowmore 15 คือหนึ่งใน “ไกด์คนแรก” ที่ดีที่สุด

3. Prakaan Double Cask Tribura Series

Prakaan (ปราการ) คือซิงเกิลมอลต์วิสกี้ระดับพรีเมียมแบรนด์แรกของประเทศไทย ภายใต้การรังสรรค์ของทีมกลั่นไทย ที่ผสานเทคนิคระดับโลกเข้ากับความภาคภูมิใจในผืนดินไทยอย่างลึกซึ้ง โดย Tribura Series ได้แรงบันดาลใจจาก “กำแพงเมืองสามชั้น” อันเป็นสัญลักษณ์ของความแข็งแกร่ง ปกป้อง และสง่างามในจังหวัดกำแพงเพชร

Double Cask คือหัวใจของซีรีส์นี้ โดยใช้เทคนิคบ่มสองขั้นตอน — ในถัง อเมริกันโอ๊กเอ๊กซ์เบอร์เบิน และ สแปนิชโอ๊กเอ๊กซ์เชอร์รี่ ซึ่งไม่เพียงเพิ่มความลุ่มลึกของรสชาติ แต่ยังสะท้อนถึงการผสมผสานระหว่างตะวันตกกับตะวันออกอย่างสง่างาม

คาแรกเตอร์เด่น:

✔ บ่ม 2 ถังแบบ Double Cask ใช้ถังอเมริกันโอ๊กมอบความนุ่มแน่น และปิดท้ายด้วยถังเชอร์รี่จากสเปนเพื่อความลึกของผลไม้และเครื่องเทศ

✔ กลิ่นหอมมีเอกลักษณ์ นำด้วยโน้ตของ วานิลลา ลูกพีช น้ำผึ้งป่า ผสานความหอมอบอุ่นของไม้โอ๊กคาราเมลและเชอร์รี่แห้ง

✔ รสสัมผัสละมุนลึก เปิดด้วยความหวานนุ่มของน้ำผึ้ง คัสตาร์ด และผลไม้แห้ง ก่อนจะเผยรสของอัลมอนด์ กานพลู และซินนามอนอย่างกลมกล่อม

✔ ความภูมิใจของไทย กลั่นและบ่มในจังหวัดกำแพงเพชร โดยใช้ทรัพยากรธรรมชาติของผืนป่าตะวันตก สะท้อน “Terroir ของไทย” ได้อย่างภาคภูมิ

4. Bulleit Bourbon

Bulleit Bourbon มีต้นกำเนิดจากสูตรลับของ Augustus Bulleit ในปี 1830 วิสกี้เมกเกอร์ผู้บุกเบิกที่ต้องการสร้างเบอร์เบินที่ “แตกต่าง” และมีรสชาติทรงพลังไม่เหมือนใคร แต่หลังจากที่เขาหายตัวไปอย่างลึกลับในระหว่างการเดินทางส่งวิสกี้ ชะตาของสูตรนี้ก็เกือบถูกลืมเลือนไป

หลายทศวรรษต่อมา ทายาทของตระกูล Bulleit คือ Tom Bulleit ได้ฟื้นฟูสูตรนี้ขึ้นใหม่ในปี 1987 พร้อมก่อตั้ง Bulleit Distilling Co. ในรัฐเคนทักกี โดยยึดมั่นในแนวทางเดิมของบรรพบุรุษ วิสกี้ที่มีสัดส่วนของไรย์สูง รสชาติจัดจ้าน และเน้นความ “กร้าวแบบดิบเท่” ซึ่งกลายเป็นเอกลักษณ์ของ Bulleit จนถึงทุกวันนี้

คาแรกเตอร์เด่น:

✔ สูตรเบอร์เบินที่มีไรย์สูงถึง 28% ให้ความรู้สึกเผ็ดร้อน (spicy) และดราย แตกต่างจากเบอร์เบินทั่วไปที่หวานนำ

✔ กลิ่นหอมคลาสสิกของอเมริกันเบอร์เบิน โน้ตของวานิลลา ถั่วพีแคน หนังแท้ และโอ๊กคาราเมลผสานอย่างลงตัว

✔ รสสัมผัสเข้มข้น กลมกล่อม แต่ดุดัน เปิดด้วยความหวานของเมเปิลและน้ำตาลไหม้ ก่อนเผยความเผ็ดเบา ๆ ของพริกไทยดำ อบเชย และสมุนไพรแห้ง

✔ ขวดดีไซน์คลาสสิก สะท้อนวิสกี้จากยุค "Frontier" หรือดินแดนพรมแดนตะวันตกของอเมริกา เหมาะเป็นของขวัญสายวินเทจหรือผู้ชื่นชอบอเมริกันคราฟต์

5. Bushmills Black Bush

Bushmills Distillery คือหนึ่งในโรงกลั่นที่เก่าแก่ที่สุดของโลก ก่อตั้งในปี 1608 ณ เมืองเล็ก ๆ ทางเหนือของไอร์แลนด์ และได้รับอนุญาตอย่างเป็นทางการให้ผลิตวิสกี้จากราชวงศ์อังกฤษ Bushmills จึงไม่ใช่แค่แบรนด์ แต่คือ “หน้าประวัติศาสตร์” ของไอริชวิสกี้

Black Bush ถือเป็นรุ่นพิเศษที่สร้างชื่อให้ Bushmills ในระดับสากล ด้วยสูตรการเบลนด์ที่ไม่เหมือนใคร — โดยใช่มอลต์วิสกี้ (Malt Whiskey) สัดส่วนสูง ผสมกับเกรนวิสกี้ (Grain Whiskey) ที่เบาและสะอาด แล้วนำไปบ่มในถัง Oloroso Sherry Cask นานหลายปี จนเกิดเป็น “วิสกี้ที่นุ่มละมุน ซับซ้อน และดื่มง่าย” ที่สุดในสายไอริช

คาแรกเตอร์เด่น:

✔ เบลนด์มอลต์วิสกี้มากถึง 80% สูงกว่าวิสกี้ไอริชทั่วไป ให้รสชาติแน่น ซับซ้อน และกลิ่นเข้มข้น

✔ บ่มในถัง Oloroso Sherry จากสเปน ถังเชอร์รี่เก่าคือหัวใจของรสชาติ กลิ่นลูกเกด แบล็กเชอร์รี่ วานิลลา และไม้โอ๊กอบอุ่น

✔ รสสัมผัสนุ่มลึก แต่ไม่หวานจนเกินไป เปิดด้วยผลไม้แห้ง น้ำผึ้ง และกลิ่นขนมปังอบ ก่อนปิดท้ายด้วยสัมผัสของเครื่องเทศบาง ๆ

✔ มีชื่อเสียงด้านความ “นุ่มดื่มง่าย” แต่ยังคงเอกลักษณ์ของไอริชวิสกี้แท้ ทั้ง smooth ทั้ง character – เหมาะกับมือใหม่หรือสายคลาสสิกที่ชื่นชอบความบาลานซ์

6. Mancino Vermouth Bianco

Mancino Vermouth ก่อตั้งโดย Giancarlo Mancino – บาร์เทนเดอร์ระดับโลกผู้มีชื่อเสียงในด้านศิลปะของค็อกเทล และต้องการรังสรรค์เวอร์มุตที่ “คลาสสิกแต่ร่วมสมัย” ขึ้นมาในแบบฉบับอิตาเลียนแท้ ๆ

Mancino Vermouth Bianco คือหนึ่งในสูตรแรกที่เปิดตัวในปี 2011 โดยนำไวน์ขาวคุณภาพจาก Trebbiano ของอิตาลี มาผสมกับสมุนไพรกว่า 37 ชนิด โดยให้รสชาติที่หวานหอม นุ่มละมุน แต่ยังคงความสดชื่น – เหมาะทั้งสำหรับจิบเพียว เป็น aperitif หรือใช้ผสมค็อกเทลคลาสสิกอย่าง Martini และ Vesper

คาแรกเตอร์เด่น:

✔ ผลิตจากไวน์ขาว Trebbiano ชั้นดีจากอิตาลี ทำให้ได้รสชาติเนียนนุ่มและกลิ่นหอมผลไม้ขาวแบบธรรมชาติ

✔ กลิ่นหอมของดอกไม้ขาว วานิลลา อัลมอนด์ และเปลือกส้ม ผสมผสานกับสมุนไพรกว่า 37 ชนิด เช่น wormwood, angelica root, ยี่หร่า และผักชี

✔ รสสัมผัสหวานละมุนแบบ Bianco Vermouth ไม่หนักหรือหวานจัดเกินไป เหมาะสำหรับดื่มเพียวบนโซดาหรือบนน้ำแข็ง

✔ เป็นส่วนประกอบสำคัญของค็อกเทลสุดคลาสสิก ใช้ได้กับ Martini, White Negroni, หรือเสิร์ฟเป็น Aperitif พร้อมส้มฝานบาง ๆ

7. Dassai 23 Junmai Daiginjo

Dassai (獺祭) คือชื่อที่คนรักสาเกทั่วโลกต่างรู้จักในฐานะ “ราชาแห่ง Junmai Daiginjo” ผลิตโดยโรงบ่ม Asahi Shuzo จากจังหวัด Yamaguchi ที่ก่อตั้งมากว่าหนึ่งศตวรรษ

ชื่อ “Dassai” หมายถึง “เทศกาลของนาก” โดยมีที่มาจากนากที่นำปลามาวางเรียงกันเหมือนกำลังจัดงาน ซึ่งเปรียบได้กับการจัดเรียงองค์ความรู้ ศิลปะ และความพากเพียรของช่างบ่มสาเกในการรังสรรค์ผลงานทุกขวด

รุ่น “23” ถือเป็นเรือธงของแบรนด์ เพราะผ่านการขัดข้าว (rice polishing) จนเหลือเพียง 23% ของเมล็ด – ซึ่งถือว่า “ละเอียดที่สุดในวงการสาเกเชิงพาณิชย์” เพื่อดึงรสชาติที่สะอาด หอม และประณีตที่สุดออกมา

คาแรกเตอร์เด่น:

✔ ใช้ข้าวสายพันธุ์ Yamada Nishiki เกรดพรีเมียม 100% ได้รับการยกย่องว่าเป็น “ราชินีแห่งข้าวสาเก” ที่ให้รสชาติเนียน ละเอียด และบริสุทธิ์

✔ ขัดข้าวเหลือเพียง 23% เพื่อกำจัดส่วนที่ให้รสฝาดหรือกลิ่นไม่พึงประสงค์ เหลือเพียง “หัวใจแห่งข้าว” ที่มอบรสสัมผัสละมุนและกลิ่นหอมบริสุทธิ์

✔ กลิ่นหอมของเมลอน มัสก์แคนตาลูป แอปเปิ้ล และดอกไม้ขาว พร้อมสัมผัสที่เบา สะอาด และนุ่มลิ้น ราวกับอากาศบริสุทธิ์ในยามเช้า

✔ รสชาติละมุน นุ่มลึก และสมดุลอย่างประณีต เหมาะทั้งกับการดื่มเดี่ยว ๆ หรือจับคู่กับอาหารญี่ปุ่นรสเบา เช่น ซาชิมิ เต้าหู้ หรือข้าวปั้น

8. Asura Golden Giant

Asura Golden Giant คือความภาคภูมิใจของวงการสุราขาวไทยยุคใหม่ ผลิตโดยทีมกลั่นฝีมือคนไทยที่มุ่งมั่นยกระดับสุราท้องถิ่นให้ก้าวเข้าสู่โลกของ “craft spirits” อย่างเต็มตัว โดยใช้ มันฝรั่งพันธุ์ดี เป็นวัตถุดิบหลักแทนข้าวหรือกากน้ำตาลแบบดั้งเดิม

ชื่อ Asura (อสูรา) มาจากตำนานของพลังดิบและความยิ่งใหญ่ของเหล่าอสูรในวรรณคดี – เปรียบเสมือนการจุดประกายพลังใหม่ให้กับวงการสุราขาว ที่กำลังแปรเปลี่ยนจาก “ดั้งเดิม” สู่ “ทันสมัย” และพร้อมให้โลกได้ลิ้มลอง

Asura Golden Giant เป็นหนึ่งในซีรีส์ที่กลั่นด้วยวิธี small batch distillation ใช้หม้อกลั่นทองแดง (copper pot still) และควบคุมด้วยมือในทุกขั้นตอน เพื่อความแม่นยำของกลิ่นและรสชาติ

คาแรกเตอร์เด่น:

✔ กลั่นจากมันฝรั่งไทยคุณภาพสูง ให้รสสัมผัสที่นุ่มนวลกว่าสุราขาวทั่วไป พร้อมกลิ่นหอมละมุนแบบธรรมชาติ

✔ ใช้กระบวนการกลั่นแบบ Small Batch กลั่นอย่างพิถีพิถันในหม้อทองแดง – เพื่อเก็บเฉพาะหัวกลั่นที่ดีที่สุดเท่านั้น

✔ รสชาติสะอาด นุ่ม เบา แต่ทรงพลัง เริ่มต้นด้วยความนุ่มนวล ก่อนเผยโน้ตของดิน เห็ดขาว และเปลือกส้มบาง ๆ

✔ แบรนด์ไทยที่มาพร้อมแนวคิดใหม่ สะท้อนพลังสร้างสรรค์ของวงการ craft spirit ไทย ด้วยดีไซน์ขวดที่ดูดิบ เท่ และร่วมสมัย

9. Plantation 3 Stars White Rum

Plantation 3 Stars คือการรวมพลังแห่งศิลปะการกลั่นรัมจากสามประเทศต้นตำรับแห่งแคริบเบียน ได้แก่ จาเมกา, บาร์เบโดส และตรินิแดด — ซึ่งเป็นที่มาของชื่อ "3 Stars"

ผลิตโดย Maison Ferrand แบรนด์ฝรั่งเศสที่โดดเด่นด้านการบ่มและเบลนด์รัมในแบบที่ให้ความลึกซึ้งและความละเมียดละไมเหนือมาตรฐานทั่วไป Plantation ไม่ใช่แค่ “รัมขาว” แต่คือผลงานฝีมือที่ผ่านการกลั่นอย่างพิถีพิถัน และเบลนด์ด้วยเทคนิคเฉพาะที่ผสมผสานทั้งรัมบ่มอ่อน และรัมบ่มเก่า (aged rum) ที่นำมากรองสีออก

คาแรกเตอร์เด่น:

✔ เบลนด์จาก 3 ประเทศต้นตำรับแคริบเบียน แต่ละแหล่งให้กลิ่นและรสชาติที่แตกต่าง:

• ตรินิแดด – เบา คลีน
• บาร์เบโดส – หอมหวานละมุน
• จาเมกา – กลิ่นเอสเทอร์เข้มข้นแบบเขตร้อน

✔ กลั่นด้วยหม้อทองแดงและคอลัมน์ ให้ทั้งความซับซ้อนและความใสบริสุทธิ์ที่เหมาะกับการทำค็อกเทลระดับมืออาชีพ

✔ กลิ่นหอมสดชื่นของกล้วย สับปะรด วานิลลา และอ้อยสด เหมาะกับเมนูอย่าง Daiquiri, Mojito หรือแม้แต่การจิบแบบ on the rocks

✔ ผ่านการบ่มและกรองแบบถนอมกลิ่น (Carbon Filtration) เพื่อให้ได้รัมขาวที่ยังคงคาแรกเตอร์ของไม้บ่มแต่มีความใสสะอาด

10. Aotan No Yuzushu

Aotan No Yuzushu (อาโอะตัน โนะ ยูซุชู) คือเหล้าหวาน (liqueur) ที่ผสมผสานกลิ่นหอมของผล ยูซุ (柚子) ซึ่งเป็นผลไม้ตระกูลส้มอันเลื่องชื่อของญี่ปุ่น กับเหล้าญี่ปุ่นคุณภาพสูง

ผลิตโดย โรงกลั่น Aotan ในจังหวัดฟุคุโอกะ ซึ่งเชี่ยวชาญการสร้างสรรค์สุราท้องถิ่นที่สะท้อนรสชาติและภูมิปัญญาของภูมิภาค โดยใช้ ยูซุสดจากเกษตรกรญี่ปุ่น คั้นสดทุกลูก และนำมาผสมอย่างประณีตกับเบสเหล้าขาวที่ผลิตขึ้นโดยไม่เติมแต่งรสเทียมใด ๆ

คาแรกเตอร์เด่น:

✔ กลิ่นหอมธรรมชาติของยูซุสด สดชื่นแบบ citrus แต่แฝงความหอมละมุนจากเปลือกและน้ำมันหอมระเหยเฉพาะตัวของยูซุแท้

✔ รสชาติหวานซ่อนเปรี้ยวแบบกลมกล่อม ดื่มง่าย เย็นสดชื่น เหมาะทั้งแบบ on the rocks หรือผสมโซดา

✔ ไม่มีสารปรุงแต่ง กลั่นด้วยฝีมือท้องถิ่น เน้นความบริสุทธิ์และธรรมชาติ – จากไร่ยูซุสู่ขวดโดยตรง

✔ แอลกอฮอล์เบา ๆ ดื่มง่ายเพลินใจ (ประมาณ 8–10%) เหมาะสำหรับสายชิลล์หรือแม้แต่คนไม่ถนัดเหล้าแรง