Overproof vs Regular ความแรงของแอลกอฮอล์…วัดกันอย่างไร?

27 กรกฎาคม 2025
Overproof vs Regular ความแรงของแอลกอฮอล์…วัดกันอย่างไร?
Posted in: Liquor Basic
More from this author
By MR.LIQ9

เมื่อคุณหยิบขวดเหล้าขึ้นมาเคาะเบา ๆ ก่อนดื่ม สิ่งแรกที่คุณควรดู อาจไม่ใช่แค่แบรนด์หรือกลิ่น… แต่คือ “ความแรง” หรือปริมาณแอลกอฮอล์ในขวดนั้นๆ แล้วคุณรู้หรือไม่ว่า… ทั้งสองประเภทนี้ต่างกันอย่างไร? และมีความหมายอย่างไรในโลกของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่คุณชื่นชอบ? ในบทความนี้เราจะพาคุณไปทำความรู้จักกับความแตกต่างระหว่าง Overproof และ Regular พร้อมคำอธิบายง่ายๆ ที่จะช่วยให้คุณเข้าใจได้ดียิ่งขึ้น


ABV คืออะไร? แล้ว Proof มาจากไหน?

Alcohol by Volume

ก่อนอื่น เราต้องรู้จักคำว่า ABV (Alcohol by Volume) คือเปอร์เซ็นต์ของแอลกอฮอล์ในเครื่องดื่ม (เช่น 40%, 57% ฯลฯ)

ส่วนคำว่า Proof นั้นเริ่มใช้ในยุคอังกฤษโบราณ เมื่อเจ้าหน้าที่ต้องการทดสอบว่าเหล้า "แรงพอ" หรือยัง  โดยการ “จุดไฟ” กับเหล้า — ถ้าไหม้ได้ = ผ่าน (Proofed)

ระบบ Proof ในปัจจุบันมี 2 แบบ:
● US Proof = ABV x 2 (เช่น 40% ABV = 80 Proof)
● UK Proof (เก่า) = ABV x 1.75 (เลิกใช้ในหลายประเทศแล้ว)

 

Regular Strength คือแค่ไหน?

Grey Goose Vodka
< ↑ Explore : Grey Goose Vodka >

เหล้าทั่วไปในท้องตลาด เช่น Vodka, Whisky, Gin, Rum มักมีความแรงอยู่ที่ ประมาณ 40% ABV (80 Proof) ซึ่งเป็นความแรงที่เหมาะสมสำหรับการดื่มปกติและสามารถนำไปผสมกับเครื่องดื่มอื่นๆ ได้อย่างลงตัว โดยส่วนใหญ่เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่นิยมดื่มกันอย่างแพร่หลาย

ตัวอย่าง:
Jack Daniel’s → 40% ABV
Bombay Sapphire Gin → 40%
Grey Goose Vodka → 40%

 

แล้ว Overproof คืออะไร?

Aberlour A' Bunadh Cask Strength
< ↑ Explore : Aberlour A' Bunadh Cask Strength >

Overproof คือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่มีเปอร์เซ็นต์แอลกอฮอล์สูงกว่ามาตรฐานทั่วไป โดยจะมีแอลกอฮอล์มากกว่า 50% ABV (Alcohol by Volume) หรือสูงกว่า 100 proof ซึ่งหมายถึงว่ามันจะมีความแรงมากกว่าปกติถึงสองเท่า ตัวอย่างของ Overproof ที่รู้จักกันดีคือ Rum ที่มักจะมีความแรงถึง 75-80% ABV ที่สามารถให้รสชาติที่เด่นชัด และยังสามารถใช้เป็นฐานในการผสมค็อกเทลที่ต้องการรสเข้มข้น

Overproof ได้รับความนิยมในวงการบาร์ เพราะ:
● กลิ่นและรสชัดเจนกว่าความแรงระดับทั่วไป
● ให้รส “อุ่น-เผ็ด” แบบ Powerful
● ใช้ปริมาณนิดเดียวก็สร้างรสได้ชัดเจนในค็อกเทล

 

ตัวอย่าง Overproof ยอดนิยม

ต้องระวังอะไรกับ Overproof?

● ปริมาณแอลกอฮอล์อาจแรงเกินไปสำหรับบางคน
● เหมาะสำหรับการ “จิบ” ไม่ใช่ “ซด”
● บางขวดสามารถ “ติดไฟ” ได้ง่าย ควรระวังขณะผสมหรือทำ flambé
● ไม่เหมาะสำหรับมือใหม่ หรือคนดื่มไวน์/เบียร์เป็นหลัก

 

วิธีเสิร์ฟแบบ LIQ9

● Neat: จิบแบบไม่ใส่น้ำ เพื่อรับรสเต็มที่ (สำหรับผู้ชำนาญ)
● On the Rock: เพิ่มน้ำแข็งช่วยบาลานซ์รส
● Highball / Mixer: ผสมกับโซดาหรือโคล่า เหมาะกับสายลองของแรงแบบนุ่มนวล
● Cocktail: ใช้สร้างค็อกเทลรสจัด อย่าง Zombie หรือ Rum Punch

 


Overproof ไม่ใช่แค่ “แรง” แต่คือศิลปะของการดื่ม

การเลือกดื่ม Overproof หรือ Regular ขึ้นอยู่กับความชอบส่วนตัวและประสบการณ์ที่คุณต้องการ เครื่องดื่มแต่ละประเภทให้รสชาติและประสบการณ์ที่แตกต่างกัน โดยที่ Overproof มักจะให้ความร้อนแรงและกลิ่นที่เด่นชัดในขณะที่ Regular จะให้รสชาติที่นุ่มนวลและผสมผสานได้ดีในทุกๆ สถานการณ์ ลองเลือกเครื่องดื่มที่เหมาะกับตัวเองและสนุกไปกับการดื่มในทุกๆ โอกาส!