10 Recommend Highland Single Malt
10 ไฮแลนด์ซิงเกิลมอลต์ที่คอวิสกี้ไม่ควรพลาด
Highland คือหนึ่งในภูมิภาคผลิตวิสกี้ที่ใหญ่ที่สุดของสกอตแลนด์ ครอบคลุมพื้นที่หลากหลาย ตั้งแต่ชายฝั่งตะวันตกไปจนถึงภูเขาทางตะวันออกเฉียงเหนือ ความกว้างของพื้นที่นี้ทำให้รสชาติของ Highland Single Malt มีตั้งแต่แบบฟรุ๊ตตี้หวานนุ่ม ไปจนถึงเข้มข้น สไปซ์ หรือแม้แต่กลิ่นควันอ่อน ๆ
ความหลากหลายทางภูมิศาสตร์ และสภาพภูมิอากาศ ส่งผลโดยตรงต่อบุคลิกของวิสกี้จากไฮแลนด์ ซึ่งมักจะมีความซับซ้อน โดดเด่นด้วยการบ่มในถังไม้โอ๊ก และมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่ไม่เหมือนใคร
วันนี้ LIQ9.asia ขอแนะนำ 10 ซิงเกิลมอลต์จากไฮแลนด์ที่คุณควรลองสักครั้ง

1. The Dalmore 18 Years Old
Dalmore ถือเป็นหนึ่งในแบรนด์ที่มีประวัติศาสตร์เก่าแก่และหรูหราที่สุดจากเขต Highland โดยโรงกลั่นตั้งอยู่ริมชายฝั่ง Cromarty Firth และได้รับการยกย่องในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านการบ่มในถังเชอร์รี่คุณภาพสูงจากสเปน
คาแรกเตอร์เด่น:
เนื้อสัมผัสนุ่มลึก กลิ่นหอมหวานซับซ้อน ผสานกลิ่นโอ๊ก เชอร์รี่แห้ง ช็อกโกแลตเข้ม และอบเชย
โน้ตการชิม:
กลิ่นเบื้องต้นคือผลไม้สุก ลูกฟิก แบล็กเคอแรนต์ ตามด้วยกลิ่นกาแฟเอสเพรสโซ ถั่วอัลมอนด์ และวานิลลา
คำแนะนำการเสิร์ฟ:
เสิร์ฟแบบ Neat หรือใส่น้ำเล็กน้อยเพื่อเปิดกลิ่น เหมาะสำหรับจิบหลังอาหารค่ำ
- ✔ บ่มนานถึง 18 ปีในถัง Oloroso Sherry
- ✔ ตัวแทนของความหรูหราแห่ง Highland
- ✔ เหมาะทั้งสำหรับการสะสมและดื่มเฉลิมฉลอง

2. Balblair 18 Year
Balblair เป็นหนึ่งในโรงกลั่นที่เก่าแก่ที่สุดในสกอตแลนด์ ก่อตั้งในปี 1790 ที่หมู่บ้าน Edderton วิสกี้ของ Balblair มีชื่อเสียงจากการใช้ปีวินเทจในการระบุล็อตบ่มในอดีต ก่อนเปลี่ยนมาใช้ระบบอายุแทนเพื่อความเข้าใจง่ายยิ่งขึ้น
คาแรกเตอร์เด่น:
ซับซ้อน มีเสน่ห์ของผลไม้แห้ง วานิลลา และเครื่องเทศอบอุ่น
โน้ตการชิม:
ลูกพรุน วอลนัท ขนมบัตเตอร์สก็อต กลิ่นโอ๊กและโกโก้อบใหม่ ๆ
คำแนะนำการเสิร์ฟ:
เหมาะกับการจิบช้า ๆ ในแก้ว Glencairn หรือใช้เป็นวิสกี้สำหรับ pairing กับของหวาน
- ✔ สไตล์วิสกี้ที่สมดุลระหว่างผลไม้และไม้โอ๊ก
- ✔ เหมาะสำหรับผู้ชอบวิสกี้แนววินเทจแต่หาง่าย
- ✔ หนึ่งในโรงกลั่นที่ทรงคุณค่าทางประวัติศาสตร์

3. Highland Park Valfather
Valfather เป็นวิสกี้รุ่นสุดท้ายในไตรภาค Viking Legend ของ Highland Park แบรนด์วิสกี้จาก Orkney ที่มีจิตวิญญาณนักรบไวกิ้งใน DNA ทุกหยด ชื่อ “Valfather” หมายถึงโอดิน เทพเจ้าสูงสุดแห่งนอร์ส ผู้ควบคุมสงคราม ความตาย และสวรรค์ของนักรบ วิสกี้รุ่นนี้ใช้ถังรีฟิลเชอร์รีที่ให้ความเข้มลึก และมีควันจากพีทในปริมาณมากที่สุดในบรรดาวิสกี้จาก Highland Park
คาแรกเตอร์เด่น:
ทรงพลังที่สุดในซีรีส์ Viking Legend พีทชัด แต่ยังคงความสมดุลกับผลไม้และเครื่องเทศ
โน้ตการชิม:
ควันพีทแห้งๆ กลิ่นแอปเปิลเขียว ส้มเชื่อม ดอกไม้ป่า และวานิลลาอบอุ่น
คำแนะนำการเสิร์ฟ:
เสิร์ฟแบบ Neat หรือหยดน้ำเล็กน้อยเพื่อเปิดกลิ่น สายซิการ์และซีฟู้ดรมควันจะชื่นชอบอย่างยิ่ง
- ✔ รุ่นสุดท้ายในซีรีส์ Viking Legend
- ✔ พีทเข้มที่สุดในประวัติศาสตร์ Highland Park
- ✔ งานออกแบบโดย Jim Lyngvild ศิลปินชาวเดนมาร์ก

4. Fettercairn 12 Year Old Single Malt Scotch Whisky
Fettercairn ตั้งอยู่ในชุมชนเล็ก ๆ ของ Aberdeenshire และเป็นหนึ่งในโรงกลั่นไม่กี่แห่งที่ใช้ “Cooling Ring” ในการลดอุณหภูมิของหม้อกลั่นโดยการปล่อยน้ำเย็นไหลรอบคอหม้อ ซึ่งเป็นเทคนิคเฉพาะตัวที่ให้กลิ่นหอมของผลไม้และโครงสร้างที่ละมุน วิสกี้รุ่น 12 ปีนี้สะท้อนรสชาติเขตร้อนอย่างชัดเจน
คาแรกเตอร์เด่น:
สดใส มีชีวิตชีวา กลิ่นผลไม้เมืองร้อนชัดเจนแต่สมดุล
โน้ตการชิม:
สับปะรดอบ น้ำผึ้ง กล้วยหอม และเครื่องเทศอ่อน ๆ จากถังโอ๊ค
คำแนะนำการเสิร์ฟ:
ดื่ม Neat ในแก้วทรง Tulip หรือใช้เป็นเบสใน Highball ที่ใส่โทนิกและเปลือกมะนาว
- ✔ ใช้ Cooling Ring เทคนิคเฉพาะของแบรนด์
- ✔ กลิ่นผลไม้เมืองร้อนชัดเจน เหมาะสำหรับนักดื่มที่ชอบรสสดใส
- ✔ ดีไซน์ขวดหรูหราน่าสะสม

5. Old Pulteney Huddart
Old Pulteney มีฉายาว่า “The Maritime Malt” เพราะตั้งอยู่ใกล้ท่าเรือในเมือง Wick ทางตอนเหนือของสก็อตแลนด์ Huddart เป็นชื่อถนนหน้าโรงกลั่น และเป็นชื่อรุ่นที่ได้รับแรงบันดาลใจจากวิถีดั้งเดิมในการทำมอลต์โดยใช้ถ่านพีท วิสกี้รุ่นนี้บ่มในถัง Bourbon แล้วจบด้วยถังพีท ให้กลิ่นควันอ่อน ๆ ผสานกลิ่นทะเลและวานิลลาอย่างกลมกลืน
คาแรกเตอร์เด่น:
กลิ่นควันเค็มแบบทะเลและพีทอ่อน ๆ สมดุลกับหวานละมุนจากโอ๊ค
โน้ตการชิม:
ไอโอดีนอ่อน ๆ สาหร่าย กลิ่นน้ำทะเล วานิลลา และพริกไทยขาว รสนวลและควันบาง
คำแนะนำการเสิร์ฟ:
เหมาะกับการดื่มหลังอาหารทะเลย่าง หรือจิบ Neat หน้าลมหนาว รสชาติเข้ากันกับอาหารรมควัน
- ✔ สะท้อนบุคลิกชายฝั่งสก็อตแลนด์ชัดเจน
- ✔ กลิ่นพีทอ่อน ๆ เหมาะกับสายควันเบา
- ✔ เหมาะกับคนที่เริ่มต้นลองวิสกี้แนว Maritime

6. Glengoyne 12 Year Old Single Malt Whisky
Glengoyne ถือเป็นโรงกลั่นที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่สุดแห่งหนึ่งของสก็อตแลนด์ ด้วยการใช้การกลั่นที่ “ช้าที่สุดในสก็อตแลนด์” โดยไม่มีการใช้พีทเลย ทำให้ได้วิสกี้ที่สะอาด หอมหวาน และนุ่มลึกอย่างมีระดับ โรงกลั่นนี้ตั้งอยู่บริเวณชายแดน Highland และ Lowland ทำให้ได้อิทธิพลจากทั้งสองภูมิภาคผสมกันอย่างกลมกลืน
คาแรกเตอร์เด่น:
วิสกี้เนื้อนุ่ม ละเอียดอ่อน หอมหวานจากผลไม้และวานิลลา
โน้ตการชิม:
กลิ่นหอมของแอปเปิลเขียว ทอฟฟี่ และอัลมอนด์คั่ว รสสัมผัสละมุนด้วยคาราเมล แอปเปิล และโอ๊คปิ้งบาง ๆ
คำแนะนำการเสิร์ฟ:
ดื่มแบบ Neat หรือเพิ่มน้ำเปล่าเล็กน้อยเพื่อเปิดกลิ่นผลไม้ เสิร์ฟในแก้ว Glencairn ที่อุณหภูมิห้อง
- ✔ ไม่มีการใช้พีท (Unpeated)
- ✔ การกลั่นที่ช้าที่สุดในสก็อตแลนด์
- ✔ เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นเข้าสู่วิสกี้ที่เน้นความละมุนและความหวานจากธรรมชาติ

7. Glenmorangie The Lasanta (Sherry Wood)-12 Years
Glenmorangie คือชื่อที่นักดื่มทั่วโลกไว้วางใจมายาวนาน โรงกลั่นนี้ขึ้นชื่อเรื่องการใช้ถังไม้โอ๊คที่มีคุณภาพสูง และการทดลองหมักในถังหลากหลายแบบ Lasanta หมักในถังเชอร์รีจากสเปน ทำให้ได้วิสกี้ที่อบอุ่นและหรูหราแบบสเปนผสมสก็อต
คาแรกเตอร์เด่น:
เน้นความเข้มข้น หวานลึก และอบอุ่นด้วยโน้ตของเชอร์รี วอลนัท และช็อกโกแลต
โน้ตการชิม:
กลิ่นลูกเกด วานิลลา ส้มช็อกโกแลต รสสัมผัสนุ่มแน่นด้วยเชอร์รีหวาน วอลนัทคั่ว และน้ำผึ้งเข้มข้น
คำแนะนำการเสิร์ฟ:
เหมาะกับการจิบช้า ๆ หลังมื้ออาหาร หรือจับคู่กับชีสแข็งและขนมหวาน เสิร์ฟแบบ Neat หรือ On the Rocks
- ✔หมักในถัง Oloroso และ PX Sherry จากสเปน
- ✔รสเข้มลึกแบบ Dessert Whisky
- ✔แบรนด์ไฮแลนด์ชื่อดังระดับโลก

8. AnCnoc 12 Year
AnCnoc ผลิตโดยโรงกลั่น Knockdhu ซึ่งมีประวัติยาวนานตั้งแต่ปี 1894 และใช้ชื่อ AnCnoc เพื่อแยกความชัดเจนจากชื่อโรงกลั่น วิสกี้ของที่นี่มีชื่อเสียงในด้านความสะอาด สดใส และสมดุล
คาแรกเตอร์เด่น:
สดชื่น สมดุล มีเสน่ห์แบบผลไม้สดพร้อมรสเปรี้ยวนิด ๆ และหวานนวล
โน้ตการชิม:
กลิ่นมะนาว น้ำผึ้ง และดอกไม้ป่า รสสัมผัสสดใสด้วยแอปเปิลเขียว เลมอน และวานิลลาเบา ๆ
คำแนะนำการเสิร์ฟ:
เหมาะกับผู้เริ่มต้น เสิร์ฟแบบ Neat ในบรรยากาศสบาย ๆ หรือเพิ่มน้ำเล็กน้อยเพื่อดึงความหวานจากผลไม้
- ✔ เหมาะสำหรับการเริ่มต้นเข้าสู่โลก Single Malt
- ✔ สดใส สดชื่น สไตล์โมเดิร์นไฮแลนด์
- ✔ โปรไฟล์ที่เข้าใจง่ายและมีความบาลานซ์สูง

9. Dalwhinnie 15 Years
Dalwhinnie เป็นโรงกลั่นที่ตั้งอยู่สูงที่สุดในสก็อตแลนด์ (กว่า 1,000 ฟุตเหนือระดับน้ำทะเล) ด้วยอากาศเย็นและหมอกหนาทำให้การบ่มช้ากว่าปกติ ส่งผลให้วิสกี้มีความนุ่มและกลิ่นหอมเย็นพิเศษ เป็นหนึ่งใน “Classic Malts of Scotland” ของ Diageo
คาแรกเตอร์เด่น:
สะอาด เย็น สดใส มีกลิ่นหอมดอกไม้และน้ำผึ้ง
โน้ตการชิม:
กลิ่นของน้ำผึ้ง ดอกไม้ และเฮเทอร์ รสสัมผัสนุ่มละมุนแบบมอลต์ ขนมปังเนย และกลิ่นโอ๊คที่ละเอียด
คำแนะนำการเสิร์ฟ:
เหมาะอย่างยิ่งในอากาศเย็น ดื่ม Neat หรือผสมน้ำเล็กน้อยเพื่อเพิ่มโน้ตหวาน
- ✔ หนึ่งใน Classic Malts of Scotland
- ✔ โรงกลั่นที่อยู่สูงที่สุดในสก็อตแลนด์
- ✔ เหมาะกับผู้ชื่นชอบกลิ่นอายเทือกเขาและสไตล์ที่สะอาด

10. Glenfarclas 105 Cask Strength Single Highland Malt Scotch Whisky
Glenfarclas เป็นโรงกลั่นที่บริหารโดยตระกูล Grant ตั้งแต่ปี 1865 และมีชื่อเสียงจากการผลิตวิสกี้ที่หมักในถังเชอร์รีคุณภาพสูง Glenfarclas 105 คือ Cask Strength ตัวแรง ที่ถูกปล่อยออกมาครั้งแรกในปี 1968 และเป็นตัวเปิดเทรนด์ของการทำวิสกี้แบบไม่ลดดีกรี
คาแรกเตอร์เด่น:
เข้มข้น ร้อนแรง หวานลึก พร้อมพลังแบบเต็ม ๆ จากถังเชอร์รี
โน้ตการชิม:
กลิ่นเชอร์รีดำ มอลต์ และคาราเมลไหม้ รสเข้มข้นด้วยช็อกโกแลต วอลนัท และพริกไทยจาง ๆ
คำแนะนำการเสิร์ฟ:
แนะนำให้ผสมน้ำก่อนจิบเพื่อปลดล็อกกลิ่นและลดความแรง เสิร์ฟในแก้ว Neat แบบ Glencairn
- ✔ Cask Strength ที่ดีกรีแรงถึง 60%
- ✔ เหมาะสำหรับนักดื่มที่ต้องการความจัดจ้านและกลิ่นรสเชอร์รีเข้มข้น
- ✔ ผลิตโดยตระกูล Grant ที่มีความภาคภูมิใจในสายเลือดแห่งมอลต์