10 Recommend Best Seller Spirits May 2025 Week 3
10 สปิริตขายดีที่สุดประจำสัปดาห์
สัปดาห์นี้ เราขอแนะนำลิสต์สินค้าขายดี ที่ลูกค้านิยมกลับมาซื้อซ้ำมากที่สุด ทั้งแบรนด์ระดับตำนานและกลิ่นรสที่ถูกใจคนดื่ม ไม่ว่าจะเป็นวิสกี้เก่าแก่จากญี่ปุ่น ไอริชลิเคียวร์สุดครีมมี่ ไปจนถึงเหล้าค็อกเทลที่ช่วยให้ทุกงานเลี้ยงสนุกขึ้นอีกระดับ ทุกขวดมีเรื่องราว พร้อมคาแรกเตอร์เฉพาะตัวที่คุณควรลิ้มลอง!
1. Suntory Hakushu 12 Years Old
Suntory Hakushu 12 ปี คือหนึ่งในวิสกี้ญี่ปุ่นระดับตำนานที่กลั่นจากเทือกเขา Southern Japanese Alps ซึ่งขึ้นชื่อว่าเป็น “บ้านของหมอก” และธรรมชาติอันบริสุทธิ์ โรงกลั่น Hakushu ถูกขนานนามว่าเป็น “The Forest Distillery” เพราะตั้งอยู่กลางป่าทึบที่รายล้อมด้วยต้นสนและแม่น้ำเย็นจัด น้ำแร่ที่นี่บริสุทธิ์มากจนถูกเลือกมาใช้ในการกลั่นมอลต์ ด้วยอิทธิพลของธรรมชาติรอบข้าง วิสกี้รุ่นนี้จึงมีกลิ่นและรสชาติที่สดชื่น ลุ่มลึก และซับซ้อนอย่างโดดเด่น
คาแรกเตอร์เด่น:
วิสกี้สาย “ป่าเขา” ที่สดชื่น เย็น และแฝงกลิ่นเขียวแบบสมุนไพรอ่อน ๆ มีโครงสร้างที่สมดุล พร้อมกลิ่นควันเบา ๆ ที่เป็นเอกลักษณ์ของ Hakushu
โน้ตการชิม:
กลิ่น: ใบสน มิ้นต์ แอปเปิลเขียว และกลิ่นควันจากไม้โอ๊ค
รสสัมผัส: สดชื่นแบบสมุนไพร เปลือกมะนาว แอปเปิลเขียว และวานิลลา
ตอนจบ: แห้งและสะอาด มีความยาว กลิ่นไม้และใบชาเขียวติดจาง ๆ
2. The Macallan 18 Years Old Sherry Oak Cask
นี่คือหนึ่งในวิสกี้รุ่นที่ได้รับการกล่าวขานมากที่สุดในโลก Macallan 18 ปี Sherry Oak Cask คือความคลาสสิกของการบ่มในถังเชอร์รี่จากประเทศสเปน ที่ใช้ถังโอ๊คยุโรปซึ่งผ่านการหมักเชอร์รี่ Oloroso ในแคว้น Jerez มาแล้วหลายปี ก่อนถูกนำมาบ่มวิสกี้อย่างพิถีพิถันในโรงกลั่น Macallan ที่ตั้งอยู่กลางชุมชน Speyside อันสงบงาม
รุ่นนี้จึงเป็นเหมือน “สมบัติล้ำค่า” ที่ทุกนักดื่มต้องลองสักครั้งในชีวิต เพราะมันรวมทุกสิ่งที่ทำให้ Macallan เป็น Macallan ไว้อย่างครบถ้วน
คาแรกเตอร์เด่น:
ลุ่มลึก หรูหรา กลมกล่อมในทุกมิติ กลิ่นเชอร์รี่แห้งและไม้โอ๊คอบอุ่นเป็นหัวใจ พร้อมโน้ตของวานิลลาและเครื่องเทศที่แทรกมาอย่างมีจังหวะ
โน้ตการชิม:
กลิ่น: เชอร์รี่แห้ง, เปลือกส้ม, วานิลลา, อบเชย, ไม้โอ๊คสเปน
รสสัมผัส: ผลไม้แห้งเข้มข้น, ดาร์กช็อกโกแลต, ทอฟฟี่, เครื่องเทศจากถังไม้เก่า
ตอนจบ: ยาวและอบอุ่น ติดกลิ่นโอ๊คและถั่วคั่วแบบหรูหรา
3. Beefeater London Dry Gin
Beefeater คือหนึ่งในแบรนด์จินระดับตำนานของลอนดอน ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1863 โดย James Burrough และเป็นจินแบบ "London Dry" ที่ยังผลิตในลอนดอนอย่างแท้จริง (ไม่ใช่แค่ชื่อ) จุดเด่นของ Beefeater คือการใช้สูตรลับที่ประกอบด้วยบอทานิคอล 9 ชนิด รวมถึงเปลือกส้มและเลมอนจากสเปน ที่ทำให้รสชาติของมันโดดเด่นและแตกต่าง
ชื่อ “Beefeater” ได้แรงบันดาลใจจากเหล่าทหารราชองครักษ์แห่งหอคอยลอนดอน (Tower of London) ซึ่งสะท้อนถึงความดั้งเดิมและความเป็นอังกฤษขนานแท้ของแบรนด์นี้
คาแรกเตอร์เด่น:
สดชื่น ชัดเจนในกลิ่นจูนิเปอร์ ส้ม และสมุนไพร สไตล์คลาสสิกแบบลอนดอนดราย เหมาะกับทุกคนตั้งแต่มือใหม่จนถึงบาร์เทนเดอร์มืออาชีพ
โน้ตการชิม:
กลิ่น: จูนิเปอร์เข้มข้น เปลือกส้ม เลมอน และกลิ่นเฮิร์บ
รสสัมผัส: แห้งแต่สดใส บอทานิคอลผสมผสานกันอย่างลงตัว เผยรสเปลือกมะนาว มะกรูด และเครื่องเทศเล็กน้อย
ตอนจบ: สะอาด คมชัด สดชื่น เหมาะกับการผสมในทุกสูตร
4. Shanky's Whip Black Irish Whiskey Liqueur
Shanky’s Whip คือไอริชลิเคียวร์ที่ผสมผสานระหว่างวิสกี้ไอริชแท้ คาราเมลหวานละมุน และวานิลลานุ่ม ๆ จากฝีมือของทีมผู้กลั่นใน County Cavan ประเทศไอร์แลนด์ ชื่อ “Shanky” มาจากตัวละครสมมติที่เป็นนักขี่ม้าที่มีจิตวิญญาณขบถ และโลโก้ที่ดูโดดเด่นคือม้าแสนน่ารักสวมหมวกนักแข่งเบสบอล!
ด้วยรสชาติเข้มแต่หวานนุ่ม และบุคลิกขี้เล่นไม่เหมือนใคร Shanky’s Whip กลายเป็นลิเคียวร์ขวัญใจสายปาร์ตี้และคนรุ่นใหม่ทั่วโลก
คาแรกเตอร์เด่น:
กลิ่นหอมของคาราเมล วานิลลา และมอลต์ รสสัมผัสนุ่มละมุน มีความหวานแบบคัสตาร์ด ดื่มง่ายกว่าวิสกี้ แต่ยังคงความเป็นไอริชอย่างมีเสน่ห์
โน้ตการชิม:
กลิ่น: วานิลลาอุ่น ๆ ช็อกโกแลตนม คาราเมลไหม้ และมอลต์
รสสัมผัส: หวานนุ่ม รสวานิลลาเข้มข้น มีกลิ่นวิสกี้แฝงอย่างละเมียด
ตอนจบ: ครีมมี่ หวานนิด ติดปลายลิ้นด้วยความหอมแบบขนมหวาน
5. Tequila Rose Strawberry Cream
Tequila Rose ถือเป็นลิเคียวร์หวานที่สร้างปรากฏการณ์ในวงการค็อกเทล ด้วยการผสานระหว่าง เตกีล่าชั้นดีจากเม็กซิโก กับ ครีมสตรอว์เบอร์รี่หอมหวานจากสหรัฐอเมริกา ขวดนี้เปิดตัวครั้งแรกในปี 1996 และกลายเป็นที่นิยมในหมู่นักดื่มทั่วโลกอย่างรวดเร็ว ไม่ว่าจะในไนท์คลับ บาร์ หรือแม้แต่ในคาเฟ่ของหวาน
แบรนด์นี้เน้นภาพลักษณ์สนุก หวาน เซ็กซี่ และดื่มง่าย เหมาะกับสายขนมหวานหรือคนที่ไม่ชอบรสแรงของแอลกอฮอล์
คาแรกเตอร์เด่น:
หวานละมุน กลิ่นสตรอว์เบอร์รี่ชัดเจน ผสานรสเตกีล่าเบา ๆ ในพื้นหลัง ดื่มง่ายมาก จนแทบไม่รู้ว่าเป็นลิเคียวร์ที่มีแอลกอฮอล์
โน้ตการชิม:
กลิ่น: สตรอว์เบอร์รี่สด ครีมวานิลลา และนมหวาน
รสสัมผัส: หวานนุ่มคล้ายพุดดิ้งสตรอว์เบอร์รี่ มีความสดชื่น และแฝงกลิ่นเตกีล่าจาง ๆ
ตอนจบ: ครีมมี่ หวาน ติดปลายลิ้นเหมือนขนมเค้กสตรอว์เบอร์รี่
6. Sod Chaeng Coconut Rum
“สดแจ้ง” คือแบรนด์คราฟต์เหล้าขาวที่ผสมผสานรากเหง้าความเป็นไทยเข้ากับวิญญาณแห่งการทดลองจากรุ่นใหม่ สายพันธุ์นี้เกิดขึ้นจากกลุ่มนักกลั่นรุ่นใหม่ที่ต้องการเปลี่ยนภาพจำของ “เหล้าขาว” ให้กลายเป็นเครื่องดื่มระดับพรีเมียมที่ทั้งเท่ ทันสมัย และแฝงกลิ่นอายวัฒนธรรมท้องถิ่น
Sod Chaeng Coconut Rum เป็นอีกหนึ่งนวัตกรรมที่ใช้ “มะพร้าวไทย” แหล่งวัตถุดิบท้องถิ่นมาสร้างเอกลักษณ์เฉพาะ โดยผสานกลิ่นมะพร้าวที่หอมละมุนเข้ากับเบสเหล้ารัม ทำให้ได้รสชาติที่แปลกใหม่ นุ่มนวล และแตกต่างจากรัมทั่วไป
คาแรกเตอร์เด่น:
หอมกลิ่นมะพร้าวชัดเจน เนื้อสัมผัสนุ่มละมุน ดื่มง่าย ไม่มีความขมของแอลกอฮอล์ชัด เหมาะกับคนที่ชอบความสดชื่นและกลิ่นเขตร้อน
โน้ตการชิม:
กลิ่น : หอมมะพร้าวคั่ว ผิวมะนาว และน้ำตาลทรายแดง
รสสัมผัส: หวานนวลเล็กน้อย รสมะพร้าวสดผสมวานิลลา
ตอนจบ: สะอาด ลื่นคอ เหลือกลิ่นมะพร้าวหอมติดปลายลิ้น
7. Bols Triple Sec
Bols คือหนึ่งในแบรนด์ลิเคียวร์ที่เก่าแก่ที่สุดในโลก มีต้นกำเนิดจากกรุงอัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์ ย้อนไปถึงปี ค.ศ. 1575 ด้วยประวัติศาสตร์กว่า 400 ปี Bols กลายเป็นชื่อที่อยู่คู่กับวงการค็อกเทลระดับโลก และเป็นแบรนด์ที่เหล่าบาร์เทนเดอร์มืออาชีพไว้วางใจ
Triple Sec ของ Bols เป็นหนึ่งในลิเคียวร์ที่ได้รับความนิยมสูงสุด ด้วยสูตรผสมที่ลงตัวจากเปลือกส้มชนิดหวานและขม ทำให้ได้รสชาติที่เข้มข้น สดชื่น และกลิ่นหอมแบบคลาสสิกของเปลือกส้มอบแห้ง
คาแรกเตอร์เด่น:
หอมสดชื่นจากเปลือกส้มชัดเจน รสชาติกลมกล่อม หวานปนขมเล็กน้อย ดื่มง่าย เป็นลิเคียวร์ที่ให้กลิ่นซิตรัสโดดเด่นในทุกเมนู
โน้ตการชิม:
กลิ่น: เปลือกส้ม น้ำตาลทราย และกลิ่นดอกไม้จาง ๆ
รสสัมผัส: หวานปานกลาง มีความขมเบา ๆ จากเปลือกส้ม
ตอนจบ: สดชื่น และติดลิ้นด้วยกลิ่นน้ำมันส้มที่ยาวนาน
8. De Kuyper Dry Orange
De Kuyper คือหนึ่งในผู้ผลิตลิเคียวร์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ก่อตั้งในปี ค.ศ. 1695 ที่เนเธอร์แลนด์ ด้วยประสบการณ์กว่า 300 ปีในวงการเครื่องดื่ม กลายเป็นสัญลักษณ์ของความเชี่ยวชาญด้านลิเคียวร์คุณภาพสูง “Dry Orange” คือลิเคียวร์เปลือกส้มสายพันธุ์พิเศษที่คัดสรรจากผลส้มในเขตร้อน และกลั่นด้วยสูตรเฉพาะของแบรนด์ ทำให้ได้รสชาติส้มเข้มข้นแต่ไม่หวานจนเกินไป เหมาะกับสายค็อกเทลที่ต้องการบาลานซ์แบบมืออาชีพ
คาแรกเตอร์เด่น:
สดชื่นแบบ Citrus-forward ไม่หวานจัด กลิ่นเปลือกส้มอบแห้งชัดเจน รสสัมผัสแน่นและสมดุล เหมาะสำหรับผู้ที่ชอบลิเคียวร์เปลือกส้มแบบแห้ง (Dry Style)
โน้ตการชิม:
กลิ่น: น้ำมันเปลือกส้มขม ส้มแมนดารินอบแห้ง สมุนไพรบาง ๆ
รสสัมผัส: สดชื่น ปลายลิ้นขมนิด ๆ แต่กลมกล่อม หอมเปลือกส้มคาราเมล
ตอนจบ: แห้ง สะอาด และมีกลิ่นส้มที่ติดยาว
9. Martell V.S
Martell (มาร์แตลล์) คือหนึ่งในแบรนด์คอนญักที่เก่าแก่และทรงอิทธิพลที่สุดของฝรั่งเศส ก่อตั้งในปี 1715 โดย Jean Martell บนแคว้น Cognac ทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศ มาร์แตลล์โดดเด่นด้วยสไตล์การกลั่นที่เน้น “ความละมุน” และการเลือกใช้องุ่นจากเขต Borderies ที่ให้กลิ่นฟลอรัลและผลไม้เด่น
Martell V.S คือ “จุดเริ่มต้นของความคลาสสิก” เป็นคอนญักระดับเริ่มต้นที่แสดงออกถึงบุคลิกของแบรนด์ได้อย่างชัดเจน ทั้งกลิ่นหอมจากผลไม้แห้ง วานิลลา และความเนียนละมุนที่เป็นเอกลักษณ์
คาแรกเตอร์เด่น:
หอมผลไม้แห้ง วานิลลา และไม้โอ๊คอ่อน ๆ มีโทนฟลอรัลจาง ๆ รสชาตินุ่ม ลื่นคอ เหมาะสำหรับผู้ที่เริ่มต้นลองดื่มคอนญัก หรือชอบสไตล์เนียนนุ่มแบบฝรั่งเศส
โน้ตการชิม:
กลิ่น: องุ่นแห้ง วานิลลา ลูกพลัม น้ำผึ้ง และกลิ่นเปลือกไม้เบา ๆ
รสสัมผัส: ผลไม้ตากแห้ง มะเดื่อหวาน วานิลลา และสัมผัสไม้โอ๊ค
ตอนจบ: สั้นถึงกลาง กลมกล่อมและละมุนคอ
10. Johnnie Walker Black Label (3 L)
Johnnie Walker Black Label คือหนึ่งในสก๊อตวิสกี้ที่ได้รับความนิยมที่สุดในโลก และเป็นสัญลักษณ์แห่งคุณภาพของการเบลนด์วิสกี้สไตล์สก็อตแท้ ๆ แบรนด์ Johnnie Walker เริ่มต้นในปี 1820 โดย John Walker ที่เมือง Kilmarnock สกอตแลนด์ และเติบโตกลายเป็นไอคอนระดับโลก
เวอร์ชัน “Black Label” เปิดตัวในช่วงปลายศตวรรษที่ 19 โดยตั้งใจสร้างสรรค์เป็นวิสกี้เบลนด์ที่อายุขั้นต่ำ 12 ปี เพื่อความกลมกล่อม มีชั้นเชิง และดื่มง่าย
ขนาด 3 ลิตรนี้ เหมาะอย่างยิ่งสำหรับสายปาร์ตี้ งานเลี้ยง หรือสะสมในบาร์บ้านคุณให้เต็มสไตล์
คาแรกเตอร์เด่น:
เข้มข้น ลึกซึ้ง แต่กลมกล่อมด้วยโน้ตของควันอ่อน ๆ ผสานผลไม้สุก วานิลลา และรสหวานปลายไม้โอ๊ค
โน้ตการชิม:
กลิ่น: แอปเปิลแดง มอลต์หวาน ควันเบา ๆ และเปลือกส้ม
รสสัมผัส: วานิลลา ลูกเกด น้ำผึ้ง และถั่วเฮเซลนัท
ตอนจบ: ยาวนาน มีกลิ่นควันไม้และสไปซ์แบบซับซ้อน