10 Recommend Best Seller Spirits May 2025 Week 1
10 สปิริตขายดีที่สุดประจำสัปดาห์
พบกับสปิริตยอดนิยมประจำสัปดาห์จาก LIQ9.asia — แต่ละขวดโดดเด่นด้วยสไตล์เฉพาะตัว รสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ และความคุ้มค่าในทุกหยด เหมาะสำหรับสายดื่มทุกระดับไม่ว่าจะสายพรีเมียม หรือมือใหม่ที่อยากเริ่มต้นอย่างมีคลาส

1. The Irishman The Harvest Irish Whiskey
The Irishman ถือกำเนิดจาก Walsh Whiskey Distillery แห่งเมือง Carlow ประเทศไอร์แลนด์ โดยมีแนวคิด “reviving Irish whiskey’s golden era” ที่ต้องการชุบชีวิตความรุ่งเรืองของวิสกี้ไอริชดั้งเดิม The Harvest คือหนึ่งในรุ่นสำคัญที่เน้น “กลิ่นอายของชาวนา” ผู้เก็บเกี่ยวข้าวบาร์เลย์และธัญพืชคุณภาพสูง ซึ่งเป็นหัวใจของไอริชวิสกี้แท้ จุดเด่นของรุ่นนี้คือการเบลนด์ Single Malt และ Single Pot Still อย่างมีศิลปะ ทำให้ได้รสสัมผัสนุ่มนวลและซับซ้อนเหนือระดับ
คาแรกเตอร์เด่น: ซิงเกิลมอลต์เบลนด์แบบไอริช บอดี้กลาง หอมละมุนแต่ยังทรงพลัง
โน้ตการชิม: กลิ่นผลไม้แห้ง แอปเปิลอบ คาราเมล และเครื่องเทศเบา ๆ พร้อมวานิลลานุ่ม ๆ
คำแนะนำการเสิร์ฟ: ดื่มเพียวหรือ on the rocks ในแก้วทรง tulip เพื่อดึงกลิ่นออกมาเต็มที่
- ✔ ไอริชวิสกี้คุณภาพจาก Walsh Distillery
- ✔ รสชาติสมดุลระหว่างผลไม้กับโอ๊ก
- ✔ เหมาะสำหรับนักดื่มมืออาชีพและมือใหม่

2. Bols Vodka
Bols เป็นหนึ่งในแบรนด์ลิเคียวและวอดก้าที่เก่าแก่ที่สุดในโลก โดยก่อตั้งที่อัมสเตอร์ดัมตั้งแต่ปี 1575 ด้วยประสบการณ์กว่า 400 ปี วอดก้าของ Bols ยังคงความคลาสสิกแบบดัตช์ที่สะอาด เนียน และโปร่งใส ปัจจุบันแบรนด์นี้ถูกใช้เป็นเบสหลักในค็อกเทลบาร์ชั้นนำทั่วโลก และยังได้รับความนิยมในหมู่ผู้ที่ชื่นชอบความเรียบง่ายแต่คุณภาพเยี่ยม
คาแรกเตอร์เด่น: วอดก้าใสสะอาด ดื่มง่าย ราคาคุ้มค่า เหมาะสำหรับค็อกเทลหลากหลาย
โน้ตการชิม: โปร่งใส เบาสบาย สัมผัสนุ่มคล้ายแร่ธาตุเล็กน้อย ไม่มีกลิ่นรบกวน
คำแนะนำการเสิร์ฟ: ใช้เป็นเบสในเครื่องดื่มค็อกเทล หรือดื่มเย็นจัดจากช่องแช่แข็ง
- ✔ แบรนด์วอดก้าระดับโลกจากเนเธอร์แลนด์
- ✔ ราคาย่อมเยา เหมาะกับทุกบาร์
- ✔ เนื้อสัมผัสสะอาดและใสกริบ

3. Suntory Haku Vodka
Haku (白) แปลว่า “ขาว” ในภาษาญี่ปุ่น เป็นการสื่อถึงความบริสุทธิ์ของวัตถุดิบหลัก — ข้าวญี่ปุ่นขาวแท้ ซึ่งถือเป็นหัวใจสำคัญของ Haku Vodka โดย Suntory หนึ่งในแบรนด์เครื่องดื่มที่ทรงอิทธิพลที่สุดของญี่ปุ่น ตั้งแต่ศตวรรษที่ 19 การกลั่นสามขั้นตอนของ Haku ใช้เทคนิคดั้งเดิมผสานกับความละเอียดละออแบบญี่ปุ่น เพื่อให้ได้วอดก้าที่มีรสสัมผัสนุ่มละมุนแต่ยังคงความซับซ้อนอยู่ในทุกหยด
คาแรกเตอร์เด่น: เนียนนุ่ม บอดี้เบา หอมละมุนอย่างมีระดับ
โน้ตการชิม: กลิ่นหอมข้าวญี่ปุ่นอ่อน ๆ สัมผัสนวลลิ้นและเย็นสะอาด
คำแนะนำการเสิร์ฟ: ดื่ม on the rocks หรือจับคู่กับอาหารญี่ปุ่นอย่างซาชิมิ
- ✔ กลั่นจากข้าวญี่ปุ่นแท้
- ✔ ใช้น้ำแร่บริสุทธิ์จากญี่ปุ่น
- ✔ หอมสะอาด สไตล์พรีเมียม

4. Plantation XO 20th Anniversary Rum
Plantation XO คือผลงานเรือธงแห่งการเฉลิมฉลองครบรอบ 20 ปีของ Alexandre Gabriel ในการดูแลแบรนด์ Plantation Rum โดยรุ่นนี้คัดสรรเฉพาะรัมจาก Barbados ที่บ่มนานในถังไม้โอ๊กอเมริกันก่อนนำไปบ่มต่อในถังไม้โอ๊กฝรั่งเศสที่ Château de Bonbonnet ประเทศฝรั่งเศส เทคนิค “Double Aging” นี้ช่วยเพิ่มความลึก กลิ่นวานิลลาและเครื่องเทศที่กลมกล่อม เป็นรัมระดับพรีเมียมที่นักวิจารณ์ทั่วโลกต่างยกย่อง
คาแรกเตอร์เด่น: รสเข้มข้น หวานนวล ซับซ้อน หรูหรา
โน้ตการชิม: กลิ่นวานิลลา กล้วยหอม เชอร์รี่แห้ง โอ๊กเก่า คาราเมล และช็อกโกแลต
คำแนะนำการเสิร์ฟ: ดื่มเปล่าในแก้ว Snifter หรือจับคู่กับซิการ์
- ✔ รางวัลเหรียญทองจากทั่วโลก
- ✔ บ่มสองขั้นตอนในบาร์เบโดสและฝรั่งเศส
- ✔ เป็นรัมที่นักสะสมต้องมี

5. The Colonist Black Spiced Rum
The Colonist คือรัมที่สะท้อนความกล้าหาญของนักเดินเรือยุคอาณานิคมในศตวรรษที่ 18 ซึ่งข้ามมหาสมุทรเพื่อตามหาความหวังและเส้นทางใหม่แห่งรสชาติ รุ่น Black Spiced Rum นี้เกิดจากการผสมผสานระหว่างรัมเข้มข้นจากหมู่เกาะแคริบเบียนกับเครื่องเทศลับเฉพาะ ให้กลิ่นหอมและรสชาติแบบ smoky-spice ที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ของท้องทะเล เหมาะกับผู้ที่หลงใหลในรสสัมผัสที่ลึกลับและดิบเท่
คาแรกเตอร์เด่น: สไปซ์จัดเต็ม บอดี้แน่น ให้กลิ่นควันนิด ๆ
โน้ตการชิม: กลิ่นอบเชย กานพลู ลูกจันทน์เทศ และวานิลลา ดื่มแล้วร้อนวาบในลำคอ
คำแนะนำการเสิร์ฟ: ผสมโคล่าหรือจิบเดี่ยวในบาร์เท่ ๆ
- ✔ สไตล์สไปซ์รัมแบบเข้ม
- ✔ เหมาะกับสายดื่มที่ชอบความแรง
- ✔ เป็นตัวเลือกสำหรับ Dark & Stormy ที่ลงตัว

6. Asamai Junmai Daiginjo 45
Asamai Brewery คือโรงกลั่นสาเกระดับสูงจากจังหวัด Akita ที่มีประวัติกว่า 300 ปีในภูมิภาค Tohoku อันหนาวเย็น สาเกรุ่นนี้คือ Junmai Daiginjo ที่ใช้ข้าว Yamadanishiki ขัดเหลือเพียง 45% และหมักด้วยยีสต์ธรรมชาติจากอากาศในโรงเก่าแก่ Asamai 45 จึงถือเป็น “งานศิลป์แบบญี่ปุ่น” ที่กลั่นกรองจากความประณีต กลิ่นหอมผลไม้ขาวและดอกไม้ฤดูใบไม้ผลิ พร้อมรสสัมผัสที่สะอาดและเปี่ยมด้วยความลึกซึ้งทางจิตวิญญาณ
คาแรกเตอร์เด่น: หอมสดชื่น ละเอียดอ่อน บอดี้บางแต่ซับซ้อน
โน้ตการชิม: กลิ่นดอกไม้ขาว เมลอนญี่ปุ่น แอปเปิลเขียว รสกลมละมุนและแร่บาง ๆ
คำแนะนำการเสิร์ฟ: ดื่มเย็นประมาณ 8–10°C จับคู่กับซูชิ ซาชิมิ หรือปลาดิบ
- ✔ ข้าว Yamadanishiki ขัด 45%
- ✔ ผลิตด้วยน้ำแร่จาก Akita
- ✔ กลิ่นหอมแบบดอกไม้และผลไม้ละเอียด

7. Zubrowka Bison Grass Vodka
Zubrowka เป็นวอดก้าอันมีเอกลักษณ์จากโปแลนด์ที่ผลิตจาก “หญ้าบายซัน” ซึ่งเติบโตเฉพาะในป่า Białowieża—แหล่งที่อยู่อาศัยของวัวไบซันป่าแห่งสุดท้ายของยุโรป แต่ละขวดใส่ใบหญ้าไว้จริง เพื่อถ่ายทอดกลิ่นเฉพาะตัวแบบวานิลลาอ่อน ๆ ผสานกลิ่นหอมสดชื่นจากธรรมชาติ นี่คือวอดก้าที่เล่าเรื่องราวของผืนป่าและความลึกลับของยุโรปตะวันออกในรูปแบบที่คุณดื่มได้
คาแรกเตอร์เด่น: หอมหวานสมุนไพรอ่อน ๆ สดชื่น ดื่มง่าย
โน้ตการชิม: กลิ่นหญ้าแห้ง วานิลลา เปลือกไม้ และแอปเปิลเขียว รสนุ่ม กลิ่นติดปลายลิ้น
คำแนะนำการเสิร์ฟ: ผสมกับแอปเปิลจูซ หรือดื่มเย็นจัดเป็นช็อต
- ✔ หญ้าบายซันแท้จากธรรมชาติ
- ✔ สไตล์วอดก้าแบบ Herbal-Flavored
- ✔ เอกลักษณ์ที่ทุกคนจำได้เมื่อดื่ม

8. Jack Daniel's Honey
Jack Daniel’s Honey คือการนำเอกลักษณ์ความเข้มของวิสกี้เทนเนสซีต้นตำรับ มาผสานกับน้ำผึ้งธรรมชาติแท้ที่ผ่านการปรุงด้วยสูตรลับของโรงกลั่นที่ Lynchburg, Tennessee ผลลัพธ์คือวิสกี้หวานกลมกล่อมที่ยังคงกลิ่นไม้โอ๊กอ่อน ๆ และสัมผัสที่ละมุน เป็นรุ่นที่ได้รับความนิยมสูงในกลุ่มนักดื่มรุ่นใหม่ เพราะดื่มง่าย จิบเพลิน และผสมกับมิกเซอร์ได้หลากหลาย
คาแรกเตอร์เด่น: หอมหวาน กลมกล่อม ไม่แรง ดื่มเพลิน
โน้ตการชิม: น้ำผึ้ง วานิลลา โอ๊กเบา ๆ และกลิ่นวิสกี้อ่อน ๆ
คำแนะนำการเสิร์ฟ: ดื่ม on the rocks หรือผสมโซดาและเลมอน
- ✔ ดื่มง่าย เหมาะกับทุกระดับ
- ✔ มิกซ์กับเครื่องดื่มได้หลากหลาย
- ✔ รสชาตินุ่มละมุน หวานเบา ๆ

9. Jameson Irish Whiskey
Jameson ถือเป็นแบรนด์ Irish Whiskey ที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในโลก ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 1780 ที่ดับลิน จุดเด่นของ Jameson อยู่ที่การกลั่นสามรอบเพื่อความนุ่ม และการบ่มในถัง Bourbon และ Sherry แบบผสมผสาน กลิ่นหอมที่ได้จึงทั้งหวานและอบอุ่นแบบผลไม้สุก วานิลลา และโอ๊กเก่า นี่คือ “Irish Whiskey สำหรับทุกคน” ที่สามารถดื่มเพียวก็ได้ หรือใช้เป็นเบสในค็อกเทลก็ยอดเยี่ยมไม่แพ้กัน
คาแรกเตอร์เด่น: นุ่ม เบา แต่ยังคงรสชาติผลไม้และกลิ่นโอ๊กเบา ๆ
โน้ตการชิม: กลิ่นแอปเปิล วานิลลา มอลต์ และน้ำผึ้งจาง ๆ
คำแนะนำการเสิร์ฟ: ดื่มเพียว, ผสมน้ำ, หรือเป็นเบสในค็อกเทลอย่าง Irish Coffee
- ✔ ไอริชวิสกี้ที่ขายดีที่สุดในโลก
- ✔ เหมาะกับทั้งมือใหม่และสายวิสกี้
- ✔ รสนุ่ม ไม่บาดคอ

10. Malfy Gin Rosa
Malfy Gin Rosa เป็นจินพรีเมียมจากชายฝั่ง Amalfi ประเทศอิตาลี ซึ่งใช้วัตถุดิบหลักอย่างเกรปฟรุ้ตสีชมพูจากซิซิลี ผิวเลมอน และดอกฮิบิสคัสในกระบวนการกลั่น กลิ่นหอมที่ได้ชวนให้นึกถึงช่วงเย็นริมทะเลอิตาลี เต็มไปด้วยบรรยากาศโรแมนติก สดชื่น และหรูหราในแบบ Dolce Vita นี่คือจินที่ผสมผสาน “กลิ่นอายซัมเมอร์” กับความซับซ้อนที่ทันสมัยได้อย่างลงตัว
คาแรกเตอร์เด่น: กลิ่นผลไม้หอมหวาน สีชมพูอ่อน ดื่มง่าย
โน้ตการชิม: เกรปฟรุตชมพู ดอกไม้จาง ๆ และจูนิเปอร์สดชื่น
คำแนะนำการเสิร์ฟ: ผสมโทนิก น้ำแข็ง และแต่งด้วยเปลือกเกรปฟรุต
- ✔ หนึ่งในจินสายแฟชั่นที่มาแรงที่สุด
- ✔ ใช้เกรปฟรุตแท้จากซิซิลี
- ✔ เหมาะสำหรับ Gin Lover ที่ชอบกลิ่นผลไม้