Margarita – ค็อกเทลแห่งความสนุก และประวัติที่ยังเป็นปริศนา
Margarita คือค็อกเทลที่มากกว่าแค่ “ดื่มง่าย”
ไม่ใช่ทุกค็อกเทลจะกลายเป็นตำนานได้… แต่ Margarita คือค็อกเทลที่ไม่เคยหายไปจากลิสต์เมนูบาร์ทั่วโลก ตั้งแต่ บาร์ริมทะเลในแคลิฟอร์เนีย จนถึง บีชคลับในโคโซเมล เม็กซิโก
ด้วยรสชาติที่ผสมผสาน เปรี้ยว-หวาน-เค็ม-แรง ไว้ในแก้วเดียว Margarita กลายเป็นสัญลักษณ์ของ “เครื่องดื่มแห่งการเฉลิมฉลองแบบเป็นกันเอง” ที่ทั้งชายหญิงดื่มได้ทุกโอกาส
ประวัติของ Margarita
Margarita เป็นหนึ่งในค็อกเทลไม่กี่ชนิดที่มี “หลายต้นกำเนิด” และ “คลุมเครือ” เป็นอย่างมาก โดยมีการสรุปจากข้อมูลของ David Wondrich นักประวัติศาสตร์ค็อกเทล ไว้ว่า "The history of the margarita is shrouded in mystery and folklore due to its numerous origin stories." (ประวัติศาสตร์ของมาร์การิต้าเต็มไปด้วยความลึกลับและเรื่องเล่าพื้นบ้านเนื่องจากมีเรื่องราวต้นกำเนิดมากมาย)
มีหลายแหล่งคาดไว้ว่า ช่วงระหว่างปี 1930–1950 คือยุคที่ Margarita ปรากฏตัวครั้งแรกอย่างเป็นทางการ โดยมี 3 แหล่งกำเนิดหลัก ซึ่งทุกแหล่งมีความน่าเชื่อถือบางส่วน และแต่ละตำนานก็มีบุคคลจริงที่มีตัวตนในประวัติศาสตร์
ตำนานที่ 1: Margarita เกิดใน Tijuana เพื่อสาวสวยที่แพ้เหล้า (1938)
Marjorie King นักแสดงสาวที่แพ้เหล้าเกือบทุกชนิด ยกเว้น Tequila
หนึ่งในเรื่องเล่าที่แพร่หลายมากที่สุด คือ Margarita ถูกคิดค้นโดย Danny Herrera บาร์เทนเดอร์ในเมือง Tijuana ประเทศเม็กซิโก โดยเขาต้องการสร้างค็อกเทลให้กับ Marjorie King นักแสดงสาวที่แพ้เหล้าเกือบทุกชนิด ยกเว้น Tequila
Herrera จึงคิดสูตรที่ ลดกลิ่นแรงของ Tequila ด้วย Lime Juice และ Triple Sec พร้อมตกแต่งขอบแก้วด้วยเกลือ ซึ่งในยุคนั้นถือเป็นความคิดสร้างสรรค์ใหม่มาก
เขาตั้งชื่อเครื่องดื่มนี้ว่า "Margarita" ซึ่งเป็นชื่อภาษาสเปนของ "Marjorie" ซึ่งเรื่องราวฉบับนี้ ทำให้ Margarita มีภาพจำว่าเป็น “เครื่องดื่มของผู้หญิงที่ทรงพลัง”
ตำนานที่ 2: Margarita Sames – สาวนักปาร์ตี้จาก Texas (1948)
Margarita Sames สาวนักไฮโซที่เชื่อกันว่าเป็นหนึ่งในต้นกำเนิด Margarita
อีกหนึ่งตำนานยอดฮิตคือ Margarita มาจากงานเลี้ยงส่วนตัวของ Margarita Sames สาวไฮโซใน Texas ผู้ชื่นชอบการผสมเครื่องดื่มให้แขกในปาร์ตี้ของเธอ
< ↑ Explore :Cointreau Orange Liqueur >
ว่ากันว่า เธอใช้ Tequila, Cointreau และน้ำมะนาวสด (Lime Juice) ชงเสิร์ฟให้แขกในงาน และหนึ่งในแขกคนนั้นคือ Tommy Hilton (เจ้าของเครือโรงแรม Hilton) ซึ่งหลงรักเครื่องดื่มนี้และนำไปใส่ในเมนูของโรงแรม Hilton ทั่วอเมริกา
จุดนี้ถือเป็นสิ่งที่เปลี่ยน Margarita จากค็อกเทลท้องถิ่น ให้กลายเป็นเมนูสากลระดับโรงแรม 5 ดาว
ตำนานที่ 3: Margarita คือวิวัฒนาการของ “Daisy”
“Daisy” เมนูที่เชื่อกันว่า คือต้นแบบของ Margarita
ก่อนจะมี Margarita... ในช่วงปลายศตวรรษที่ 19 ถึงต้นศตวรรษที่ 20 มีค็อกเทลที่นิยมในอเมริกาเหนือชื่อว่า “Daisy” เป็นเครื่องดื่มที่ผสมเหล้าหลัก + น้ำมะนาว + เหล้าหวาน (เช่น Orange Liqueur)
หลายคนเชื่อว่า Margarita คือ "Tequila Daisy" ที่เปลี่ยน base spirit จาก Brandyเป็น Tequila และเปลี่ยนชื่อ Daisy (แปลว่า ดอกเดซี่) มาเป็น "Margarita" ที่แปลว่า Daisy ในภาษาสเปน… ตำนานนี้มีน้ำหนักทางภาษาศาสตร์และวัฒนธรรมการดื่มที่ต่อเนื่อง เป็นการเชื่อมโยงสูตรเก่ากับวัตถุดิบท้องถิ่นในเม็กซิโกยุคใหม่
บริบททางวัฒนธรรมของ Margarita
ช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 (ปี 1945 เป็นต้นไป) สหรัฐอเมริกาเริ่มมีการเดินทางท่องเที่ยวไปเม็กซิโกมากขึ้น Margarita กลายเป็นเครื่องดื่มที่แสดงออกถึง “การพักผ่อน, ความรื่นรมย์, ความร้อนแรงแบบลาติน” โดยเฉพาะในรัฐชายแดนอย่าง Texas, Arizona, California
บาร์ใน Las Vegas และ Los Angeles คือจุดกระจาย Margarita สู่ mainstream culture
จากชายแดน...สู่บาร์ทั่วโลก
ช่วงปี 1930s–1940s เป็นยุคที่อเมริกายังฟื้นตัวจาก Prohibition (ยุคแอลกอฮอล์ผิดกฎหมาย) นักดื่มหลายคนจึงเดินทางข้ามไปเม็กซิโกเพื่อดื่มอย่างเสรี และพบเจอกับ Tequila เป็นครั้งแรก บวกกับการเพิ่มขึ้นของ ร้านอาหารเม็กซิกันในแคลิฟอร์เนียและเท็กซัส ทำให้ Margarita เข้าถึงคนอเมริกันอย่างรวดเร็ว
นี่จึงไม่ใช่แค่เครื่องดื่มธรรมดา แต่คือ “ผลผลิตของการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรม” ระหว่างสหรัฐฯ กับเม็กซิโก
⦿ ปี 1971: Margarita เข้าสู่ยุค “Frozen Margarita” ด้วยการประดิษฐ์เครื่องปั่นโดย Mariano Martinez
⦿ ปี 1980s: Margarita กลายเป็นค็อกเทลหลักในร้านอาหารเม็กซิกันทั่วอเมริกา
⦿ ปี 2000s: Margarita ได้รับความนิยมในเอเชียและยุโรป จากกระแส Tequila เและอาหารฟิวชัน
⦿ ปัจจุบัน: Margarita มีหลากหลายสไตล์ ทั้ง Spicy, Fruity, และแบบ Craftที่ใช้ส่วนผสมพรีเมียม
Margarita ช่วยพา “Tequila” เข้าสู่เวทีโลก
ก่อน Margarita จะดัง... เตกีลาเคยเป็นแค่เหล้าพื้นบ้านจากเมืองเล็ก ๆ ในรัฐ Jalisco ของเม็กซิโก แต่การเกิดของ Margarita ทำให้เตกีลากลายเป็นสุราที่ “จับต้องได้” สำหรับชาวอเมริกัน และกลายเป็น “จุดขายอันดับ 1” ของสุราจากลาตินอเมริกา
ปัจจุบัน Tequila เป็นหนึ่งในสุราที่เติบโตเร็วที่สุดในโลก และ Margarita ก็ยังคงเป็น "เครื่องมือชูรส" ที่พาเตกีลาเข้าสู่หัวใจนักดื่มหน้าใหม่ทั่วโลก
คำแนะนำจาก LIQ9: หากอยากเริ่มรู้จัก Margarita อย่างจริงจัง
⦿ เริ่มจาก Tequila Blanco 100% Agave คุณภาพดี เช่น Patrón, Don Julio, El Jimador
⦿ ลองทำ Margarita แบบ “classic shaken” ก่อน แล้วค่อยปรับเป็น frozen หรือ flavored
⦿ เติมเกลือขอบแก้วเพื่อเพิ่มมิติรสชาติ แต่หากไม่ชอบ... ลองใช้ “Tajin” (พริกป่น+มะนาว+เกลือสไตล์เม็กซิกัน)
Margarita คือเครื่องดื่มแห่ง “เสรีภาพและความสร้างสรรค์”
ไม่ว่าคุณจะเชื่อเรื่องเล่าไหน สิ่งหนึ่งที่ทุกตำนานมีร่วมกันคือ “การผสมผสาน” และ “การปรับเปลี่ยน”
และนั่นคือหัวใจของ Margarita – ค็อกเทลที่ไม่หยุดนิ่ง แต่พร้อมเปลี่ยนไปตามยุค ตามผู้ดื่ม และตามแรงบันดาลใจ